รัฐบาลโชว์ความเจริญอีกขั้น! ร่างแผนแม่บทรถไฟฟ้าฉบับใหม่ M-MAP 2 กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ครอบคลุม 33 เส้นทาง ชี้ “พล.อ.ประยุทธ์” วิสัยทัศน์พัฒนาไทยอย่างยั่งยืน

เมื่อวันที่ 28 ก.ค.66 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมและขนส่งของประเทศ ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี โดยในส่วนของโครงข่ายรถไฟฟ้า ได้ผลักดันให้มีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ตามแผน M-MAP เดิมส่งผลให้ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้เปิดให้บริการแล้ว 242.34 กิโลเมตร และอยู่ระหว่างการก่อสร้าง105.40 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามด้วยสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการเดินทางของประชาชนที่เปลี่ยนไป จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องจัดทำแผนแม่บทโครงข่ายรถไฟฟ้าฉบับใหม่ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า กรมการขนส่งทางรางได้รายงานผลการดำเนินการ “โครงการศึกษาเพื่อพัฒนาแบบจำลองการคาดการณ์ความต้องการเดินทางด้วยระบบรางและการพัฒนาโครงข่ายระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล (พื้นที่ต่อเนื่อง) ระยะที่ 2”หรือ M-MAP 2 เพื่อต่อยอดแผน M-MAP เดิม ให้มีความครอบคลุม สอดคล้องกับแนวโน้มการเติบโตของเมืองในอนาคต และตอบสนองความต้องการในการเดินทางของประชาชนอย่างแท้จริง

สำหรับแผนการพัฒนา M-MAP 2 นี้มีทั้งสิ้น 33 เส้นทาง แบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
1.เส้นทาง M-MAP 1 ที่ยังไม่ดำเนินการมีจำนวน 8 เส้นทาง
2. ส่วนเส้นทางใหม่จำนวน 14 เส้นทาง
3. เสนอต่อขยาย จำนวน 11 เส้นทาง

ซึ่งการจัดลำดับความสำคัญแผนการพัฒนา M-MAP 2 สามารถแบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
A1 : เส้นทางที่มีความจำเป็น / มีความพร้อม “ดำเนินการทันที” จำนวน 4 เส้นทาง ได้แก่
A1-1) รถไฟฟ้าสายสีแดง รังสิต-ธรรมศาสตร์ (Commuter)
A1-2) รถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน-ศาลายา (Commuter)
A1-3) รถไฟฟ้าสายสีแดง ตลิ่งชัน-ศิริราช (Commuter)
A1-4) รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล แคราย-บึงกุ่ม (Light Rail)

A2 : เส้นทางที่มีความจำเป็น / แต่ต้องเตรียมความพร้อมก่อน “คาดว่าดำเนินการภายในปีพ.ศ. 2572” จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่
A2-1) รถไฟฟ้าสายสีแดง บางซื่อ-หัวลำโพง (Commuter)
A2-2) รถไฟฟ้าสายสีเขียว สนามกีฬาแห่งชาติ-ยศเส (Heavy Rail)
A2-3) รถไฟฟ้าสายสีเขียว บางหว้า-ตลิ่งชัน (Heavy Rail)
A2-4) รถไฟฟ้าสายสีแดง วงเวียนใหญ่-บางบอน (Commuter)
A2-5) รถไฟฟ้าสายสีเงิน บางนา-สุวรรณภูมิ (Light Rail)
A2-6) รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-ทองหล่อ (Light Rail)

B : เส้นทางมีศักยภาพ เนื่องจากผ่านการศึกษาความคุ้มค่าในโครงการ M-MAP 1 หรือเป็นเส้นทางใหม่ที่มีปริมาณผู้โดยสารถึงเกณฑ์ที่จะพัฒนาเป็นระบบรถไฟฟ้าได้ จำนวน 9 เส้นทาง ได้แก่
B-1) รถไฟฟ้าสายสีฟ้า พระโขนง-ท่าพระ (Light Rail)
B-2) รถไฟฟ้าสายสีฟ้า สาทร-ดินแดง (Light Rail)
B-3) รถไฟฟ้าสายสีเทา วัชรพล-ลำลูกกา (Light Rail)
B-4) รถไฟฟ้าสายสีเขียว คูคต-วงแหวนรอบนอก (Heavy Rail)
B-5) รถไฟฟ้าสายสีเขียว ตลิ่งชัน-รัตนาธิเบศร์ (Heavy Rail)
B-6) รถไฟฟ้าสายสีเขียว สมุทรปราการ-บางปู (Heavy Rail)
B-7) รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน บางแค-พุทธมณฑล สาย 4 (Heavy Rail)
B-8) รถไฟฟ้าสายสีแดง บางบอน-มหาชัย-ปากท่อ (Commuter)
B-9) รถไฟฟ้าสายสีแดง หัวลำโพง-วงเวียนใหญ่ (Commuter)

C : เส้นทาง Feeder ดำเนินการเป็นระบบ Feeder เช่น Tram ล้อยาง, รถเมล์ไฟฟ้า จำนวน 26 เส้นทาง ได้แก่
C-1) เส้นทาง ลาดพร้าว-รัชโยธิน-ท่าน้ำนนท์
C-2) เส้นทาง ดอนเมือง-ศรีสมาน
C-3) เส้นทาง ศาลายา-มหาชัย
C-4) เส้นทาง ศรีนครินทร์-บางบ่อ
C-5) เส้นทาง คลอง 6-องค์รักษ์
C-6) เส้นทาง รัตนาธิเบศร์-แยกปากเกร็ด
C-7) เส้นทาง คลองสาน-ศิริราช
C-8) เส้นทาง บางซื่อ-พระราม 3
C-9) เส้นทาง ราชพฤกษ์-แคราย
C-10) เส้นทาง พระโขนง-ศรีนครินทร์
C-11) เส้นทาง บางซื่อ-ปทุมธานี
C-12) เส้นทาง เมืองทอง-ปทุมธานี
C-13) เส้นทาง บางแค-สำโรง
C-14) เส้นทาง แพรกษา-ตำหรุ
C-15) เส้นทาง ธรรมศาสตร์-นวนคร
C-16) เส้นทาง บางนา-ช่องนนทรี
C-17) เส้นทางสุวรรณภูมิ-บางบ่อ
C-18) เส้นทาง บรมราชชนนี-ดินแดง-หลักสี่
C-19) เส้นทาง ธัญบุรี-ธรรมศาสตร์
C-20) เส้นทาง คลอง 3- คูคต
C-21) เส้นทาง มีนบุรี-สุวรรณภูมิ-แพรกษา-สุขุมวิท
C-22) เส้นทาง เทพารักษ์-สมุทรปราการ
C-23) เส้นทาง บางใหญ่-บางบัวทอง
C-24) เส้นทาง บางปู-จักรีนฤบดินทร์
C-25) เส้นทาง ครุใน-สมุทรปราการ
C-26) เส้นทาง ปทุมธานี-ธัญบุรี

“การทำแผนพัฒนานี้ก็เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนา และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมให้ข้อคิดเห็นกับแผนพัฒนานี้ด้วย จะเห็นได้ว่า ในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มุ่งมั่นพัฒนาชาติสู่ความเจริญทุกรูปแบบ ผลักดันแผนแม่บทรถไฟฟ้า M-MAP 2 เพื่อรองรับการพัฒนาในอนาคต ยกระดับการเดินทางของประชาชนผ่านระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวก ทันสมัยมากขึ้น ลดการใช้ยานพาหนะส่วนตัว อีกทั้งจะช่วยแก้ปัญหาจราจรติดขัด ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นศูนย์ กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”น.ส.ทิพานัน กล่าว