การเลี้ยงหมูแบบอิสระของพ่อแม่ ถือเป็นภาพชินตาที่ ชมพูนุท บุญทิม หรือ ใบพลู เห็นและสัมผัสมาตั้งแต่เกิด จนกลายเป็นทักษะอาชีพติดตัวของเธอมาจนถึงทุกวันนี้ หลักจบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ พระจอมเกล้าพระนครเหนือ เมื่อปี 2555 เธอไม่ลังเลที่จะเข้ามารับมรดกอาชีพที่ครอบครัวสร้างไว้ เมื่อผนวกกับหัวคิดทันสมัยเธอ จึงตัดสินใจเปลี่ยนรูปแบบการเลี้ยงหมูขุน จากที่เลี้ยงในโรงเรือนแบบเปิด กลายเป็นฟาร์มระบบปิดมาตรฐาน และขยายการเลี้ยงจาก 200-300 ตัว เป็น 3,500 ตัว

หลังจากทำให้ฟาร์มหมู ที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งเป็นธุรกิจครอบครัวประสบความสำเร็จ ใบพลู ต้องการขยายการเลี้ยงหมูให้ใหญ่ขึ้น เพื่อสร้างให้ธุรกิจนี้เติบโตขึ้น จึงตัดสินใจเปิดใจกับการร่วมเป็นเกษตรกรในโครงการส่งเสริมการเลี้ยงสุกรขุน หรือ คอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) กับ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ แม้ว่าเมื่อก่อนจะมีความคิดว่าต้องทำธุรกิจเอง โดยไม่ทำคอนแทรคกับใคร เพราะชอบความอิสระ จนอาจเรียกว่าเป็นการตั้งกำแพงในใจก็ได้

“เมื่อเป้าหมายคือการเติบโต และต้องการขยายงานให้ใหญ่ขึ้น บนพื้นฐานความเสี่ยงต้องต่ำ ซีพีเอฟ ถือเป็นบริษัทต้นๆที่คิดถึง เพราะตัวเอง “โตมากับซีพี” เนื่องจากที่ฟาร์มของพ่อแม่ก็ซื้อลูกหมูซีพีเข้าเลี้ยง และใช้อาหารของบริษัทอยู่แล้ว และยังอยากพิสูจน์ในสิ่งที่บางคนยังเข้าใจผิด ว่าการร่วมธุรกิจกับบริษัทใหญ่เราอาจเสียเปรียบ แต่เมื่อได้มาร่วมทางเดินกับซีพีเอฟแล้ว ก็พิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่คนอื่นคิดนั้นไม่ใช่เลย ในทางกลับกันอาชีพเรามั่นคง รายได้และผลตอบแทนดีเกินกว่าที่คิดไว้เสียอีก วันนี้นอกจากตัวเองจะประสบความสำเร็จแล้ว คนรอบข้างก็ได้รู้ว่าบริษัทสนับสนุนเกษตรกรให้เติบโตไปด้วยกันจริงๆ” ใบพลู เกษตรกรรุ่นใหม่วัย 33 ปี กล่าวอย่างมั่นใจ

สำหรับการขยายความสำเร็จสู่ “เนตรบุญฟาร์ม” ต.หนองประตู่ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี บนพื้นที่ 47 ไร่ เธอตัดสินใจลงทุนเลี้ยงหมูในเฟสใหญ่ ก่อสร้างโรงเรือน 7 หลัง ความจุหมูขุนรวม 10,500 ตัว เมื่อกลางปี 2565 พร้อมนำระบบฟาร์มอัจฉริยะ (Smart Farm) มาใช้บริหารจัดการฟาร์มเลี้ยงหมู ทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV ในโรงเรือนเลี้ยงและจุดสำคัญอื่นๆรอบฟาร์ม มีระบบสั่งการทำงานเปิด-ปิดพัดลม และการทำงานของ Cooling Pad ด้วยระบบอัตโนมัติ ส่วนการให้อาหารใช้ไซโล และกำลังพัฒนาให้มีระบบสั่งการอัตโนมัติที่คาดว่าจะติดตั้งได้ในเร็วๆนี้ ใบพลูบอกว่า ระบบ Smart Farm มีส่วนสำคัญมากในการผลักดันความสำเร็จ เพราะสามารถจัดการและสั่งการทุกอย่างผ่านโทรศัพท์ กรณีมีปัญหาจะมีข้อความแจ้งเตือนทันที ทำให้การทำงานง่ายขึ้น แก้ปัญหาทันท่วงที ทีมงานเข้าดูแลแก้ไขอย่างรวดเร็ว สามารถดูได้ทุกที่ทุกเวลา

“วันนี้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้ามามีบทบาทกับเกษตรกรมากขึ้น แม้จะมีการลงทุนเพิ่ม แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เมื่อพิจารณาแล้วก็ได้คำตอบว่าเราจะทำอย่างเดิมไปทำไม เมื่อตัดสินใจทำสมาร์ทฟาร์มและได้ใช้จริงๆ ถือว่าคุ้มมาก เรียกว่าถ้าไม่มีสมาร์ทฟาร์มชีวิตยุ่งยากแน่นอน เพราะไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถบริหารจัดการฟาร์มได้ อย่างเช่นตอนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็ยังสั่งงานข้ามประเทศได้ สามารถดูการทำงานระบบและทีมงานได้ ทุกวันนี้ทำงานง่ายมากขอแค่มีโทรศัพท์เท่านั้น” ใบพลู กล่าว

นอกจากระบบการผลิตอัจฉริยะแล้ว เนตรบุญฟาร์มยังใช้ระบบไบโอแก๊ส ในการบำบัดของเสียในกระบวนการเลี้ยง ทำให้ได้ก๊าซชีวภาพที่เป็นพลังงานสะอาด นำมาปั่นไฟฟ้าใช้ในฟาร์ม ช่วยลดค่าไฟได้ถึง 50-60% และที่นี่ยังติดตั้งเครื่องแยกกากตะกอนก่อนเข้าระบบไบโอแก๊ส เพื่อลดตะกอนในบ่อหมัก กากตะกอนที่ได้นำไปใช้ในสวนผลไม้ ขณะเดียวกันน้ำหลังการบำบัดก็ยังนำไปแบ่งปัน เป็นน้ำปุ๋ยให้กับเพื่อนเกษตรกรรอบข้าง ช่วยป้องกันปัญหาภัยแล้งได้เป็นอย่างดี

สำหรับเคล็ดลับความสำเร็จ อย่างแรกคือต้องทำให้งานทั้งหมดเป็นระบบ ต้องทุ่มเทให้กับงาน ใส่ใจ ดูแลอย่างจริงจัง ต่อมาคือการสร้างทีมงานแบบใจแลกใจ เพราะทุกคนใหม่หมดไม่มีประสบการณ์เลย จึงต้องสอนกันตั้งแต่เริ่มต้น ให้เรียนรู้ไปด้วยกัน โชคดีที่ทีมงานทุกคนพร้อมเรียนรู้ และพร้อมก้าวไปด้วยกัน การผลิตจึงมีประสิทธิภาพดี หมูมีคุณภาพ ความเสียหายน้อย ผลตอบแทนจึงมากตามไปด้วย

“หนึ่งปีที่ผ่านมา ผลลัพธ์เหนือความคาดหมายหลายๆอย่าง จริงๆแล้วไม่ได้ตั้งเป้าหมายเรื่องตัวเลขผลกำไรเลย ขอแค่วางระบบให้เข้มแข็ง แต่ผลที่ออกมาดีกว่าที่คิดไว้มากๆ วันนี้ความสำเร็จที่ตั้งเอาไว้ถือว่าได้เริ่มต้นแล้ว และเรามี “ซีพีเอฟเป็นเพื่อนคู่คิด” ที่จะเดินไปด้วยกัน บริษัทไม่เคยทิ้งเกษตรกร เวลามีปัญหาผู้บริหารซีพีเอฟก็ลงมาช่วยดูเอง เพื่อร่วมกันแก้ไขอย่างจริงจัง เราจึงอุ่นใจที่ได้บริษัทมาดูแลสนับสนุนใกล้ชิด ซึ่งหากเราทำให้เต็มที่ ความสำเร็จย่อมเกิดกับทั้งตัวเองและบริษัทไปพร้อมๆกัน เรียกว่า WIN – WIN ทั้งคู่ เชื่อว่าอาชีพนี้จะสร้างความมั่นคง วันนี้พ่อกับแม่วางมือแล้วเรียกว่าเกษียณอย่างเกษมโดยให้เราและสามีดูแลกิจการแทนทั้งหมด และการเลี้ยงหมูก็จะกลายเป็นมรดกอาชีพให้กับลูกทั้ง 2 คนของเราได้อย่างแน่นอน” ใบพลู กล่าวอย่างมั่นใจ

“เนตรบุญฟาร์ม” เป็นตัวอย่างของคอนแทรคฟาร์มเกษตรกรยุคใหม่ที่เปิดรับเทคโนโลยี เปิดใจนำนวัตกรรมเข้ามาใช้ยกระดับกระบวนการผลิตหมูให้มีประสิทธิภาพ และไม่หยุดพัฒนา จนประสบความสำเร็จมีอาชีพที่มั่นคง