คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชุดใหญ่ มีมติแจ้งข้อหา “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา-พ.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง” กับพวกรวม 4 คน คดีจัดซื้อเครื่องตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (เครื่องไบโอเมตริกส์) วงเงิน 2,100 ล้านบาท หลังขยายเวลาการส่งมอบสินค้าเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทคู่สัญญา เตรียมเรียกทั้งหมดมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา

ที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 มีมติเอกฉันท์ให้แจ้งข้อกล่าวหากับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กับพวก ประกอบด้วย พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานส่งกำลังบำรุง (สกบ.) พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในคดีการดำเนินงานโครงการจัดซื้อไบโอเมตริกส์ หรือการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองวงเงิน 2,100 ล้านบาท

สำหรับคดีนี้เมื่อประมาณเดือน ส.ค.64 ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ มีมติแต่งตั้งองค์คณะไต่สวนชุดใหญ่สอบสวนคดีนี้อย่างเป็นทางการ ข้อกล่าวหาโดยสรุปเป็นเรื่องการขยายระยะเวลาการรับมอบสินค้าที่ไม่ถูกต้องตามระเบียบ มีลักษณะเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนคู่สัญญา โดยสัญญาโครงการจัดซื้อไบโอเมตริกส์ มีกำหนดส่งมอบครุภัณฑ์ให้แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติภายในกำหนด 66 วัน แบ่งเป็น 6 งวด ครบกำหนดตามสัญญาในวันที่ 2 พ.ค.62 แต่บริษัทผู้ขายไม่ส่งมอบสินค้าให้ตรงตามที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติกลับขยายเวลาออกไปจนถึงวันที่ 30 มิ.ย.62

ขั้นตอนต่อไป คณะกรรมการ ป.ป.ช. จะทำหนังสือแจ้งข้อกล่าวหากับ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พล.ต.ท.ติณภัทร ภุมรินทร์ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง และ พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ อย่างเป็นทางการและเรียกผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา จากนั้นจะต้องสรุปสำนวนการไต่สวนเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหญ่พิจารณาชี้มูลเป็นทางการอีกครั้ง