ปภ.แจ้ง 10 จว.ลุ่มน้ำเจ้าพระยา และ กทม. เฝ้าระวัง เตรียมรับมือระดับน้ำเพิ่มสูง จากการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ช่วง 20 – 26 ส.ค.นี้
เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2565 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้รับแจ้งจากกรมชลประทาน ประกอบกับกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีประกาศฉบับที่ 30/2565 แจ้งว่าในวันที่ 20 – 24 ส.ค. ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ บริเวณภาคเหนือ และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล
ทำให้มีน้ำท่าไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณระหว่าง 1,900 – 2,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้พื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ บริเวณคลองโผงเผง จ.อ่างทอง คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา และ ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น ดังนี้
ช่วงวันที่ 19 ส.ค.เป็นต้นไป จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,400-1,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20 เมตรในวันที่ 20-23 ส.ค. ช่วงวันที่ 23-25 ส.ค.จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นในอัตรา 1,500-1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.40-0.80 เมตรในวันที่ 24-26 ส.ค.
ทั้งนี้หากมีปริมาณน้ำเหนือเพิ่มขึ้น จะส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยามากกว่า 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จะแจ้งให้ทราบต่อไป
กอปภ.ก.จึงได้ประสาน 10 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ได้แก่ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพฯ และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจากการระบายน้ำผ่านท้ายเขื่อนเจ้าพระยาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อย พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำ
โดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในพื้นที่ริมน้ำนอกแนวคันกั้นน้ำ และแนวเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร และพื้นที่จุดเสี่ยงที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำตามริมแม่น้ำ ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ อาทิ การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งทรุด แพร้านอาหาร ท่าเทียบเรือ และเลี้ยงสัตว์น้ำในกระชัง เฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น
รวมถึงแจ้งจังหวัดประสานท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
ท้ายนี้ ประชาชนสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอพพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” และหากได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป