“บ้านศิลปะฮิมน่าน” เป็นสตูดิโอเล็กๆ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เป็นพื้นที่เรียนรู้และเวิร์คช๊อปงานศิลปะ อย่างเช่นงานปั้นดินเบา ปั้นปูนสด และงานวาดภาพจิตรกรรม ที่ไม่ว่าจะเด็กเล็กหรือผู้ใหญ่ ก็แวะเวียนไปเรียนรู้และสนุกกับการได้ลงมือสร้างงานศิลปะของตัวเอง ท่ามกลางบรรยากาศสบายๆ ใต้ร่มเงาไม้ มองเห็นวิวแม่น้ำน่าน บางคนอยู่มุมเล็กๆ นั่งทำงานศิลปะอย่างสงบมีสมาธิ ขณะที่อีกมุมในห้องสตูดิโอ เด็กๆ ก็ส่งเสียงหัวเราะสนุกกับงานปั้นดินเบาด้วยจินตนาการ

นางสาวภาวี บุญศรี หรือ เบียร์ เจ้าของ “บ้านศิลปะฮิมน่าน” บอกเล่าถึงแรงบันดาลใจ และความทุ่มเทกว่าจะมาเป็นพื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัย โดยเล่าย้อนไปในช่วงปี 2562 ที่บ้านเดิมนี้ เป็นร้านอาหาร แต่ไม่ประสบความสำเร็จและมีปัญหาทางเศรษฐกิจ ทำให้ตอนนั้นต้องพบเจอมรสุมชีวิตหลายด้าน จนได้หันหน้าเข้าสู่การปฏิบัติธรรม เพื่อให้จิตใจสงบ การทำสมาธิศึกษาพระธรรมก็ทำให้เกิดปัญญา โดยใช้งานศิลปะในการทำสมาธิ ซึ่งส่วนตัวก็เรียนศิลปะและมีความชื่นชอบอยู่แล้ว โดยอาจารย์คนแรก คือ พ่อครูเหรียญชัย อาจหาญ ซึ่งเป็นศิลปินที่ทำงานศิลปะด้านการวาดและงานปั้น ได้เรียนรู้พื้นฐานคืองานลายเส้นและงานลงสี และได้ใช้ความรู้พื้นฐานนี้ช่วยงานที่วัดป่า ได้มีโอกาสเรียนรู้และปั้นงานฐานบัว ฐานพระ แต่ก็ยังขาดความรู้และทักษะของงานปั้นจริงๆ จึงได้ไปเรียนรู้กับ พระมหาธนพล ธมฺมพโล เจ้าอาวาสวัดแสงดาว และประธานกลุ่มพุทธศิลป์น่าน ได้เรียนรู้ตั้งแต่การตำปูนโบราณ ไปจนถึงการผูกลาย เป็นองค์ความรู้ที่จะเอามาประกอบอาชีพได้จริงๆ และโชคดีที่มีอาจารย์ที่ปรึกษาหลายท่านจึงได้ความรู้และเทคนิคมากมาย

ช่วงปี 2564 ก็กลับมาเปลี่ยนบ้านที่เคยเป็นร้านอาหาร ให้เป็นพื้นที่ทำงานศิลปะของตัวเอง โดยเฉพาะเรื่องงานปั้น มีแนวคิดต่อยอดว่า งานศิลปะต้องสร้างรายได้ เราต้องอยู่ได้ด้วยงานศิลปะ จะได้คอนเซ็ปต์ว่า “เก่าแต่เก๋” นำองค์ความรู้ภูมิปัญญาโบราณดั้งเดิม เอามาบวกกับเทรนด์สมัยใหม่ ให้เกิดการประยุกต์ โดยเริ่มจากงานปั้นงานนูนต่ำ ออกแบบเป็นงานของที่ระลึกน่ารักๆ ผลคืองานออกมาดีมีเสียงตอบรับ มีคนยอมจ่ายเพื่อซื้องาน สุดท้ายคือตอบโจยท์ งานศิลปะที่สามารถเลี้ยงชีพได้ ก็ประยุกต์และพัฒนา จากปั้นปูนสด ก็มีดินเบา ดินอีพ็อกซี่ เอามาใช้ในงานปั้นของตัวเอง และก็เริ่มสอนเด็กๆ ปั้นดินเบา สอนให้ฟรี และใช้เงินส่วนตัวซื้อดินเอามาสอนเด็กๆ บริจาคให้กับโรงเรียนด้วย ก็พยายามที่จะสร้างพื้นที่เรียนรู้ศิลปะจนในปี 2565

สำนักงานพื้นที่พิเศษ 6 องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) หรือ อพท. มีกิจกรรมพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ งานคราฟท์ และโฟล์คอาร์ต เพื่อส่งเสริมบรรยากาศเมืองสร้างสรรค์ จึงได้มีโอกาสเข้าร่วมและถือว่าเป็นการเปิดบ้านตัวเองเป็นพื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะร่วมสมัยอย่างเต็มตัว มีคนรู้จักเรามากขึ้น มีโอกาสแลกเปลี่ยนเครือข่ายงานศิลปะและงานคราฟท์ โดยตอนนี้เราก็ทำงานปั้นขาย ทั้งที่เป็นงานโบราณดั้งเดิม เช่น งานปั้นนูนต่ำแบบคลาสสิก ปู่ม่านย่าม่าน ลายหม้อดอก และงานแบบร่วมสมัย งานวาดระบายสี งานลายเส้นจิตรกรรมฝาผนัง ซึ่งเป็นทรัพยากรทางวัฒนธรรมที่ทรงคุณค่าและมีมูลค่า

นอกจากนี้ยังมีคอร์สสอนศิลปะ เช่น งานปั้น โดยเน้นไปที่กลุ่มเด็กและเยาวชน สอนปั้นด้วยดินเบา แล้วนำไปทำเป็นเข็มกลัด สามารถขายได้ชิ้นละ 10 บาทขึ้นไป สร้างเป็นรายได้เสริม แต่ถ้ายกระดับ ก็จะสอนปั้นดินอีพ็อกซี่ นำไปประยุกต์กับแก้วน้ำหรือสิ่งของอื่นๆ สอนวาดภาพจิตรกรรม ระบายสี เพนท์สี แล้วขณะนี้ก็มีเครือข่ายเป็นอาจารย์สอนนาฎศิลป์โดยตรง มาจัดคอร์สสอนร่วมด้วย เพื่อทำให้ “บ้านศิลปะฮิมน่าน” เป็นพื้นที่สร้างสรรค์จริงๆ ที่สำคัญคือ มาเรียนศิลปะที่นี่ ต้องสามารถมีทักษะติดตัวไปสร้างเป็นอาชีพ มีรายได้ ไม่ว่าจะงานปั้น งานวาด หรืองานฟ้อนรำ ก็ต้องสามารถนำไปสร้างรายได้ให้ได้ด้วย

โดยแนวทางการพัฒนา “บ้านศิลปะฮิมน่าน” ก็จะพยายามสร้างการเรียนรู้งานศิลปะไปเรื่อยๆ พัฒนาคอร์สการสอน และเชื่อมภาคีเครือข่ายอื่นๆ ซึ่งเชื่อมั่นว่า ความยั่งยืนเกิดขึ้นได้จากการทำงานวันนี้ให้ดีที่สุด โดยทำให้เป็นที่ประจักษ์ชัดเจนในเรื่องของการเรียนรู้งานศิลปะทั้งแบบพุทธศิลป์และแบบร่วมสมัย พร้อมทำงานร่วมกับทุกหน่วยงาน ที่จะสนับสนุนกิจกรรมสร้างสรรค์ในพื้นที่ “บ้านศิลปะฮิมน่าน” ซึ่งหากใครสนใจกิจกรรม สามารถติดต่อสอบถามไปได้ทางเพจ “มะเก่า มะเก่า (บ้านศิลปะฮิมน่าน)”