“เอกนัฏ” ชี้ รทสช. เดินหน้าต่อยอด 4.7 ล้านเสียง ด้วยผลงาน ส.ส. 36 คนในสภาฯ มุ่งรักษาจุดยืนทำงานตามอุดมการณ์ไม่ว่าในฐานะไหน ปฏิเสธออกความคิดเห็นการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคอันดับหนึ่ง-สอง แต่ ยืนยัน ไม่ยกมือให้นายกฯ ที่มีจุดยืนแก้ ม.112 เด็ดขาด

เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวเกี่ยวกับการขับเคลื่อนพรรคหลังการเลือกตั้ง ว่า วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติยังคงเดินหน้าทำงานด้านการเมืองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้พรรคมีความเข้มแข็งขึ้น ตามแนวทางและอุดมการณ์ตั้งแต่เริ่มตั้งพรรค โดยหลังจากนี้จะเน้นการทำงานเป็นทีม เพื่อต่อยอดจาก 4 ล้าน 7 แสนกว่าคะแนนเสียงให้มากขึ้น และจะทำให้ 36 ที่นั่งของ ส.ส. ในสภาฯ ของพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถทำงานตอบแทนพี่น้องประชาชนที่เลือกเข้ามาได้อย่างเต็มที่

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า อีกทั้งยังรักษาจุดยืนไว้ โดยเฉพาะสิ่งที่ตนพูดอย่างชัดเจนมาโดยตลอด คือการไม่แก้มาตรา 112 ตอนนี้ภารกิจการจัดตั้งรัฐบาลเป็นหน้าที่ของพรรคที่ได้คะแนนเสียงในลำดับต้นๆ ซึ่ง พรรครวมไทยสร้างชาติ จะไม่เข้าไปยุ่ง รวมถึงไม่เข้าไปกีดกัน ไม่ขัดขวาง แต่ยืนยันหนักแน่นว่า พรรคจะไม่ยืนร่วมกับรัฐบาลที่มีวาระแก้ หรือยกเลิกมาตรา 112 อย่างแน่นอน ถ้ามีก็สมัครใจที่จะเป็นฝ่ายค้าน และจะไม่โหวตกับนายกรัฐมนตรีที่มีเจตนาจะไปแก้มาตรา 112 ซึ่งเป็นจุดยืนที่พรรคประกาศไว้กับประชาชนเมื่อตอนหาเสียงเลือกตั้ง และจะรักษาจุดยืนนี้ และยืนยันจะโหวตไม่เห็นชอบในสภาฯ ต่อ นายกฯ ที่มีวาระการแก้ไข หรือยกเลิกมาตรา 112 อย่างแน่นอน

“เงื่อนไขเรื่องมาตรา 112 เรายอมไม่ได้ ถอยไม่ได้เรายืนยันแล้วว่าเราไม่แก้ เขาก็ต้องชัดเจนเหมือนกัน เพราะหลายเรื่องเขาไปสัญญาไว้ วันนี้ก็ถึงเวลาว่าต้องพิสูจน์กันว่าจะทำตามสิ่งที่ได้สัญญากับประชาชนไว้ได้หรือไม่” นายเอกนัฏ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ และอาจจะมีสูตรใหม่ ที่มีคนกล่าวถึงพรรครวมไทยสร้างชาติขึ้นมานั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดถึงไปถึงขนาดนั้น ตอนนี้คิดแค่ปัจจุบัน พร้อมกลับมาทำงาน และทบทวนในการที่จะพัฒนาตัวเอง อย่างไรต่อไป ยังไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น

นายเอกนัฏ กล่าวด้วยว่า ตนและ ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ได้ติดใจว่า จะต้องเป็นรัฐบาล หรือฝ่ายค้าน จะอยู่ฝั่งไหนก็สามารถทำงานได้ จะเป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นรัฐบาลที่ดีและต้องแน่ใจว่าพรรคร่วมรัฐบาลมีทิศทางความคิดทุกอย่างตรงกัน ไม่มีประโยชน์ที่จะไปรวมกันถ้าคิดไม่ตรงกัน เพราะในที่สุดประเทศก็ไปไม่ได้

เมื่อถามว่าหากมีพรรคอื่นมาชวนไปร่วมรัฐบาล แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ นายเอกนัฎ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ คือรวมไทยสร้างชาติ รวมไทยสร้างชาติ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดังนั้นไม่ต้องสร้างเงื่อนไขแบบนี้ ถ้าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่ต้องเอารวมไทยสร้างชาติ ซึ่งพรรคเองก็ได้ยืนยันชัดเจนในเรื่องนี้มาแล้ว

“ก่อนหน้านี้ที่มีการปล่อยข่าวออกมาว่าเดี๋ยวท่านจะค่อยๆ ออกไป คือเอาให้ชัดว่า จริงๆ ท่านช่วยพรรคมาเยอะ สี่ล้านคะแนนก็มาจากท่าน ถึงแม้เราเสนอท่านเป็นแคนดิเดตนายกฯ แต่การเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯ การเป็นนายกฯ ต้องใช้เสียงรัฐสภาฯ ถ้าเราไม่ชนะไม่ได้แปลว่าท่านต้องหยุด ท่านก็ยังสามารถขับเคลื่อนพรรคได้ เป็นสมาชิกพรรค เป็นประธานยุทธศาสตร์ฯ แล้วทุกคนก็มีความเชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ อยากให้ท่านทำงานต่อ ฉะนั้นถ้าปฏิเสธ พล.อ.ประยุทธ์ ผมว่าจะเอาพรรคเราไปร่วมมันคงไม่ง่าย” นายเอกนัฏ กล่าว