การตรวจพบตู้คอนเทนเนอร์ตกค้างในท่าเรือแหลมฉบังถึง 161 ตู้บรรจุหมูเถื่อนถึง 4,500 ตัน หรือ 4,500,000 กิโลกรัม เปรียบเหมือน “กรุแตก” ที่ยืนยันได้ว่า “ขบวนการหมูเถื่อน” ลักลอบขนหมูผิดกฎหมายเข้ามาในช่องทางเรือเดินทะเลเป็นหลักและทำมานานแล้ว โดยขึ้นฝั่งไทยที่แหลมฉบัง ผ่านการสำแดงเท็จเป็นปลาแช่แข็งหรือสินค้าอื่นๆ จนกระจายสู่ตลาดทั่วประเทศ ส่งผลกระทบถึงราคาสุกรมีชีวิตของเกษตรกรทั่วไทย

กว่าหนึ่งปีที่ผ่านมา เกษตรกรพยายามสื่อสาร ส่งสัญญาณ เรียกร้องขอความช่วยเหลือ จากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็มีการตรวจสอบจับกุมได้ส่วนหนึ่ง แต่ปริมาณหมูเถื่อนก็ยังคงกระจายขายอยู่ดาษดื่นทั่วไทย เมื่อแรงกดดันมากขึ้นจึงเกิดสถานการณ์กรุแตกจนกระทั่งกรมศุลกากรออกมาเปิดเผยตัวเลขหมูเถื่อนที่พบในพื้นที่อย่างขัดเจน เป็นที่จับตาของสังคมและประชาชนในวงกว้าง ส่งผลให้เกิดความระส่ำระสายในเส้นทางกระจายหมูเถื่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูที่รอดพ้นการตรวจสอบจับกุม ณ ท่าเรือและย้ายสต็อกออกมาสิงสถิตอยู่ตาม “ห้องเย็น” ของจังหวัดต่างๆ

สถานการณ์กรุแตกดังกล่าว กำลังทำให้ห้องเย็นเหล่านั้นเร่งระบายหมูออกจากพื้นที่ เพื่อทำลายหลักฐานไม่ให้มีของผิดกฎหมายหลงเหลือ อีกเหตุผลหนึ่งก็คือหมูเหล่านั้นกำลังทยอยหมดอายุ จึงทำให้ยิ่งปล่อยของออกมามากขึ้น กระทบราคาหมูไทยในตลาดทันที ในช่วงนี้จึงได้เห็นราคาหมูหน้าฟาร์มลดลงต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ล่าสุด วันพระที่ 4 พฤษภาคม 2566 ราคาตกต่ำมาอยู่ที่ 70-79 บาทต่อกิโลกรัม (แตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค) สวนทางต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่ยังคงสูงอยู่ที่ 100 บาทต่อกิโลกรัม

น่ากังวลกับการตัดสินใจของเกษตรกรผู้เลี้ยงหมู จะมีกี่รายที่สามารถแบกรับขาดทุนเช่นนี้ต่อไปได้ไหว อีกกี่รายที่จะยกธงขาวยอมแพ้เลิกอาชีพไป แม้ความพยายามครั้งสุดท้ายกำลังจะเกิดขึ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม เมื่อเกษตรกรลุกฮือนัดรวมพลเพื่อนร่วมอาชีพ เดินหน้าเข้าทำเนียบเรียกร้องการแก้ปัญหากับนายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่มีอะไรการันตีได้ว่าจะสามารถจัดการกับขบวนการหมูเถื่อนได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน ก็น่ากังวลกับผู้บริโภคไทยที่นิยมรับประทานอาหารนอกบ้าน โดยเฉพาะร้านชาบู หมูกระทะ ที่ควรต้องเลือกบริโภคร้านที่ไว้วางใจได้ เพราะราคาหมูเถื่อนหมดอายุมันยั่วยวน กำไรที่จะได้จากการขายมันหอมหวาน หากร้านอาหาร ชาบู หมูกระทะ ฯลฯ ไม่มีจรรยาบรรณในการเลือกซื้อวัตถุดิบ ย่อมมีความเสี่ยงที่จะนำเนื้อหมูแช่แข็งใกล้หมดอายุ หรือหมดอายุแล้วออกมาให้บริการลูกค้าซึ่งเป็นอันตรายไม่น้อยไปกว่าสารตกค้างที่ปนเปื้อนอยู่ในเนื้อหมูเหล่านั้นเลย

หมูเถื่อน ชำแหละและแช่แข็งในประเทศต้นทางมาแล้วหลายเดือน ขนส่งมาบนเรือเดินทะเลอีกนับเดือน ถ้าบวกเวลาที่ตู้ตกค้างอยู่ ณ ท่าเรืออีก 7-8 เดือนตามที่ปรากฏในข่าว เบ็ดเสร็จคนไทยต้องกินหมูที่ชำแหละมานานนับปี เป็นหมูขยะที่ไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัย ทั้งๆที่ปกติแล้วคนไทยไม่นิยมหมูแช่แข็ง แต่จะกินหมูร้อนหรือเนื้อหมูที่ชำแหละกันวันต่อวัน

บทบาทของผู้ประกอบการร้านอาหาร จึงนับว่ามีส่วนสำคัญไม่น้อยในการสนับสนุนหรือขัดขวางการกระจายหมูเถื่อนเข้าสู่ตลาด โปรดอย่าเห็นแก่หมูราคาถูก แต่จงเห็นแก่สุขภาพและเลือกความปลอดภัยให้ลูกค้าของร้านเป็นสำคัญ เป็นเสียงเรียกร้องของเกษตรกร ที่กำลังขอความร่วมมือร้านอาหารช่วยขจัด “ขบวนการหมูเถื่อน” ให้หมดไป หยุดอุดหนุนของผิดกฎหมาย อย่าให้มันเข้ามาเปลี่ยนวิถีบริโภคหมูของคนไทย จนทำให้เกษตรกรต้องหมดอาชีพเลย./

โดย… สามารถ สิริรัมย์