“ศรัณย์วุฒิ”ประกาศก้องความนิยมพรรครวมไทยสร้างชาติดีวันดีคืน ย้ำชาวบ้านชื่นชอบ“ลุงตู่” ยิ่งได้“ศรัณย์วุฒิ”นักต่อสู้กับปชต.จอมปลอมมาร่วมพรรคยิ่งเป็นจุดขาย อัดยับ“เพื่อไทย”ปั่นกระแสฮาร์ดเซลแจก 1 หมื่นทำไม่ได้เข้าข่ายซื้อเสียงล่วงหน้าส่อถูกกกต.ฟัน
เมื่อวันที่ 10 เมษายน นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ ผู้สมัคร ส.ส.อุตรดิตถ์ เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ(รทสช.) เบอร์ 4 เปิดเผยว่า ขณะนี้กระแสของพรรครวมไทยสร้างชาติดีวันดีคืน เพราะชาวบ้านชื่นชอบพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ชื่นชอบบัตรลุงตู่ ประกอบกับตนได้มาอยู่พรรคนี้จนเป็นข่าวดังไปทั่วประเทศ ในฐานะที่ตนได้ต่อสู้กับประชาธิปไตยจอมปลอม ประชาธิปไตยปล้นชาติทำให้คนในพื้นที่หูตาสว่าง หลังจากเคยไปหลงใหลได้ปลื้มพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ทั้งที่ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง
ทั้งนี้ หากได้ฟังนายจตุพร พรหมพันธุ์ ออกมาแฉอย่างตรงไปตรงมาว่า พรรคเพื่อไทยเป็นประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งตนไม่ได้พูดเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ทำให้กระแสเปลี่ยนจากเดิมคนไม่ค่อยรู้จักทำให้คนรู้จักพรรครวมไทยสร้างชาติมากขึ้น กระแสที่เคยไปหลงเชื่อพรรคเพื่อไทยก็ลดลง มาเพิ่มให้พรรครวมไทยสร้างชาติเพิ่มขึ้น บวกกับตัวตนของนายศรัณย์วุฒิที่มีจุดขายมี FC เยอะมากถ้าตัดสินใจอย่างไรอธิบายแล้วประชาชนคนไทยทั้งแผ่นดินไม่ใช่เฉพาะจังหวัดอุตรดิตถ์ หูตาก็เริ่มสว่าง ทำให้หันมารักพรรครวมไทยสร้างชาติและรักลุงตู่มากขึ้น เพราะตนออกมาให้ความจริงที่กระจ่างกับคนไทยทั้งแผ่นดินตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้กระแสเพิ่มขึ้น
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยประกาศแจกเข้ากระเป๋าดิจิทัล 10,000 บาทว่า อยากถามว่ามีวาระซ่อนเร้นอะไร ทำเพื่อปั่นกระแสหรือที่เรียกว่าฮาดเซลล์ ประกาศไปก่อนแล้วค่อยแก้ไขทีหลัง พรรคนี้มีนิสัย เช่นนี้ประจำ เช่น ประกาศขึ้นค่าแรง 600 บาทพอถูกซักถามมาก ๆก็บอกว่าไปประกาศใช้ปี 70 ใคร ๆก็พูดได้ แต่เป็นไปได้หรือไม่ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการก็ออกมาไขข้อเท็จจริงให้ประชาชนรู้ว่า เป็นนโยบายประชานิยมไม่มีโอกาสได้ทำ
“ผมดูแล้วเป็นนโยบายที่ประกาศเพื่อปั่นกระแส เป็นการซื้อเสียงล่วงหน้าอาจถูกกกต.ยุบพรรคได้ หากจะทำจริงก็ยังไม่รู้เอาเงินมาจากที่ไหน พรรคนี้ชอบประกาศนโยบายเช่นนี้อะไรที่ได้คะแนนประกาศไว้ก่อน เป็นสิ่งที่เจ้าของพรรคที่อยู่แดนไกลต้องการ แน่จริงกล้าสาบานหรือไม่นี่คือความจริงประเทศไทย ดังนั้นนโยบายแจก 10,000 บาท เป็นนโยบายที่ผมฟันธงว่าเป็นประชานิยมหลอกลวงประชาชน และประชาชนไม่เชื่อถือ นักวิชาการออกมาตีแผ่แล้วว่าจะนำไปสู่การปฏิบัติที่มีปัญหาแน่