จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามเอ็ม16 บุกเข้าไปที่บ้านเลขที่ 91 ม.8 ต.กะเปา อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี แล้วเกิดการดวลปืนกันจนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 4 ศพ ทราบชื่อรายแรกคือ นายธรรมรงค์ นิลนิยม อายุ 61 ปี เจ้าของบ้าน และเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน รายที่ 2 นางนิลทิพย์ ปาลคะเชนทร์ อายุ 48 ปี ภรรยาของ นายธรรมรงค์ รายที่ 3 นายพรศักดิ์ เพชรชู อายุ 58 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.ท่าขนอน และรายที่ 4 คือ นายธรรมรัตน์ หรือวัฒน์ วิเชียร เป็นหนึ่งในกลุ่มของคนร้าย นอกจากนี้ยังมีคำสั่งให้ ด.ต.อรรพร วิเชียร ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สภ.คีรีรัฐนิคม ช่วยราชการสืบภาค 8 ออกจากราชการไว้ก่อน เนื่องจากเป็นหนึ่งในผู้ก่อเหตุ
ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 9 เม.ย.66 เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน รับแจ้งเหตุพบศพผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีบรอนซ์ ทะเบียน กร 3948 สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ก่อเหตุใช้อาวุธสงครามดวลปืนกับอดีตผู้ใหญ่บ้านดับ 4 ศพ จอดอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ในลานวัดไกรสรเขตราราม ม.4 ต.เขาพัง อ.บ้านตาขุน จ.สุราษฎร์ธานี ตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนขยายผลคดี และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน8
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 ได้เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ส่วนผู้เสียชีวิตภายในรถเป็นชายหนึ่งราย นอนเสียชีวิตอยู่ที่เบาะข้างคนขับ เบื้องต้นทราบชื่อเล่นคือ นายบาส อายุประมาณ 25 ปี เป็นลูกชายของ ด.ต.อรรถพร คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ หลังก่อเหตุได้ขับรถได้ขับรถคันดังกล่าวหลบหนี และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ติดตามคนร้ายจนมาเจอรถมาจอดอยู่ภายในวัด
ทั้งนี้คาดว่าในวันก่อเหตุ ด.ต.อรรถพร ได้มาพร้อมกับ นายธรรมรัตน์ พี่ชายของ ด.ต.อรรถพร ซึ่งถูกยิงตายในที่เกิดเหตุ นายมานพ ว่างงาน อายุ 54 ปี และ นายบาส ลูกชายของ ด.ต.อรรถพร ได้ไปร่วมก่อเหตุด้วยกัน และเกิดการดวลปืนกันจน นายบาส ถูกยิงจนเสียชีวิต และขับรถหลบหนีมาจอดในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ทราบว่า ด.ต.อรรถพร ได้โทรไปหาพี่ชายที่บวชเป็นพระว่าลูกชายถูกยิงตาย ก่อนนำรถมาจอดที่วัดดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมตัว ด.ต.อรรถพร และ นายมานพ สองผู้ต้องหาก่อเหตุ ที่ยังคงหลบหนีการจับกุมอย่างกระชั้นชิด
