ตำรวจนครบาล เร่งพิสูจน์ทราบคนร้ายยิงนักศึกษาปทุมวันเสียชีวิตในพื้นที่ สน.บางกอกน้อย เชื่อเป็นคนร้ายกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุมาแล้วอย่างโชกโชนในพื้นที่ สน.บางขุนเทียน และทุ่งมหาเมฆ หลังพบพฤติการณ์การก่อเหตุเหมือนกัน ไม่หวั่นแม้เบื้องหลังของคนร้ายจะเป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่
พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. กล่าวถึงความคืบหน้าคดีมือปืนยิง นายศตวรรษ รอบรู้ อายุ 23 ปี นศ.ปี 1 สาขาวิศวกรรมไฟฟ้า สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิต คนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ขี่วกกลับมายิงซ้ำอย่างโหดเหี้ยม เหตุเกิดที่ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 30/1 ท้องที่ สน.บางกอกน้อย ว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวคนร้ายจะต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง
จากการสืบสวนพฤติการณ์ก่อเหตุมีลักษณะใกล้เคียงกับคดียิงนักศึกษาเทคโนฯ ปทุมวัน ในท้องที่ สน.บางขุนเทียน เมื่อกลางปีที่แล้ว และคดีที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากก่อเหตุคล้ายกับเป็นการล็อกเป้าเฝ้าสะกดรอยติดตามผู้เสียชีวิต ว่าจะเข้าออกจากที่พักในช่วงเวลาใด ก่อนจะเข้าไปก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ โดยเป็นการยิงให้รถล้ม ก่อนจะวนรถกลับมาจอดยิงซ้ำอีกครั้ง
พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวต่อว่า ช่วงก่อนและหลังเกิดเหตุ พบว่ากลุ่มคนร้ายขี่รถวนไปมาเพื่อปกปิดร่องรอยเส้นทางหลบหนี (ขับรถวนหลอกกล้อง) โดย 2 คดีแรก ตำรวจสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ ยังจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้ยังไม่หมด หากสามารถพิสูจน์ทราบตัวบุคคลได้ต้องนำไปตรวจสอบกับทั้ง 2 คดีก่อนหน้านี้ว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ ก่อนรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ
จากการสอบปากคำครอบครัวและพยานแวดล้อมผู้ตายทราบว่า ประวัติไม่เคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับคู่อริของสถาบันใด เพราะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 เป็นเด็กตั้งใจเรียน ไม่ได้มีประวัติการก่อเหตุทะเลาะวิวาท หรือยกพวกตีกับคู่อริสถาบันใด และไม่มีประวัติเชื่อมโยงไปถึงผู้เสียชีวิตในคดีที่ผ่านมา
“ส่วนกรณีที่มีข้อมูลว่าคนร้ายมีการทำงานกันเป็นกลุ่มองค์กรคล้ายองค์กรอาชญากรรม มีการช่วยปกปิดร่องรอยการก่อเหตุไม่ให้สามารถจับได้ ยืนยันว่าคดีนี้ไม่หนักใจ แม้ว่ากลุ่มคนร้ายจะมีลักษณะพฤติการณ์ทำงานเป็นกระบวนการก็จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนจนสามารถออกหมายจับและติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ หากพบว่ามีบุคคลใดให้การช่วยเหลือก็พร้อมจะดำเนินคดีบุคคลที่เกี่ยวข้องด้วย”พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าว