เพชรบูรณ์-ทหารร่วมกับป่าไม้ อุทยานฯ ตรวจสอบการก่อสร้างบ้านพักหรู ร้านกาแฟริมทางที่แคมป์สน เขาค้อ พบมีการบุกรุกพื้นที่ป่าขยายจากที่ดินเดิม และก่อสร้างโดยไม่ได้ขออนุญาตจากเทศบาล คิดค่าเสียหายรัฐกว่า 4 ล้าน จึงยึดไว้ทั้งหมด ดำเนินคดีผู้เกี่ยวข้อง
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2566 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ (บิ๊กช้าง) หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. เปิดเผยว่า ช่วงเย็นวานนี้ได้ร่วมกับคณะเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) นำโดยพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน. ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, อุทยานแห่งชาติเขาค้อ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) จ.เพชรบูรณ์ ตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างที่พักตากอากาศ ร้านกาแฟและสิ่งปลูกสร้างใหม่หลายแห่งในพื้นที่ป่าริมทางหลวงหมายเลข 12 ท้องที่ หมู่ 7 บ.ทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์
พ.อ.พงษ์เพชร กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่าจุดที่กำลังก่อสร้าง เป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 อยู่ในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 เพื่อป้องกันและบรรเทาการเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่ และบริเวณที่ก่อสร้างไม่มีการสำรวจการถือครองตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่อย่างใด โดยเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบคนงานกำลังทำงานก่อสร้างอาคารคอนกรีต จำนวน 4 คน มีนายกฤษดา อายุ 51 ปี เป็นหัวหน้าคนงาน ให้การว่ารับจ้างจากนายเซ่ง ให้ก่อสร้างอาคารคอนกรีต 3 ชั้น เพื่อทำเป็นที่พัก โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 ก.พ. 66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้ตามเจ้าของมาพบ
ต่อมา มีนายเซ่ง อายุ 64 ปี ได้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินบริเวณที่ตรวจสอบประมาณ 25 ไร่ ต่อจากบิดาซึ่งเสียชีวิตนานแล้ว และยอมรับว่าเป็นเจ้าของบ้านสร้างใหม่จำนวน 3 หลัง ร้านกาแฟ 1 หลัง และอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้างอีก 2 หลัง รวม 6 หลัง จึงได้สอบถามว่าที่ดินที่ก่อสร้างนั้นมีเอกสารสิทธิที่ดินและได้ขออนุญาตก่อสร้างถูกต้องจากเทศบาลหรือไม่ นายเซ่งก็ได้ตอบว่า มีเอกสาร ภบท.5 และไม่ได้ขออนุญาตุกับเทศบาล เจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายเซ่ง เจ้าของนำชี้ขอบเขตที่ดินที่ครอบครอง และจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ ได้เนื้อที่ 37 – 0 – 20 ไร่ และทำการตรวจสอบภาพถ่ายปี 2545 และปี 2556 พบว่าบริเวณจุดตรวจสอบ ยังคงมีสภาพป่าสมบูรณ์ ไม่มีการทำประโยชน์มาก่อน แต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่ในเดือน ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าใหม่ จึงไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น และได้ตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดิน ไม่พบว่ามีการสำรวจ 30 มิ.ย. 41 จุดที่กำลังก่อสร้างใหม่ แต่พื้นที่ติดกันพบการสำรวจการถือครอง 30 มิ.ย. 41 เป็นชื่อของนายเซ่งครอบครองพื้นที่ 20 – 3 – 68 ไร่ จึงถือว่าเป็นการบุกรุกขยายพื้นที่เพิ่มจากที่ดินที่ทำกินเดิม ซึ่งผิดเงื่อนไขการทำกินในเขตป่าไม้ตามมติ ครม.30 มิ.ย. 41 จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดพร้อมดำเนินคดี และได้ตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สน ทราบว่าไม่มีการขออนุญาตใดๆ ในการก่อสร้าง
เจ้าหน้าที่ ได้แจ้งดำเนินคดีนายเซ่ง และผู้ที่เกี่ยวข้อง ข้อหากระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.54 ประกอบ ม.72 ตรี และ ม.55 และพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ม.21 จึงตรวจยึดพื้นที่ รวมจำนวน 37 – 0 – 20 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน จำนวน 4,303,366 บาท ร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึด นำส่ง พงส. สภ.เขาค้อ เพื่อดำเนินคดีกับนายเซ่ง และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมอบหมายให้ หน.โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน สบอ.11 และนายกเทศมนตรีตำบลแคมป์สนเป็นผู้กล่าวโทษ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) เป็นพยาน