องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก สานต่ออย่างยั่งยืนใน “โครงการต้นแบบพรุ่งนี้ที่ดีกว่า Build Back Better for Elephants”

เพื่อสวัสดิภาพช้าง รับ “วันช้างไทย” กรุงเทพฯ,13 มีนาคม 2566 (วันช้างไทย) – ประเทศไทยจัดเป็นศูนย์กลางในการใช้ช้างในธุรกิจท่องเที่ยวและความบันเทิง เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมานานหลายปี ซึ่งปัจจุบัน มีช้างไทยกว่า 3,000 ตัวที่ถูกนำมาใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ช้างเหล่านี้จะถูกฝึกตั้งแต่ยังเล็ก ช้างเด็กจะถูกพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเล็ก ถูกกักขัง เฆี่ยนตี ล่ามโซ่ ให้เชื่อฟังคำสั่ง ก่อนจะถูกส่งไปใช้งานตามปางช้างต่างๆ ผ่านกิจกรรมแสดงโชว์ ให้นักท่องเที่ยวขี่ อาบน้ำ ฯลฯ โดยที่ช้างเหล่านี้ไม่ได้มีโอกาสได้ใช้ชีวิตและแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติ ในขณะที่กระแสการท่องเที่ยววิถีใหม่อย่างรับผิดชอบและยั่งยืนแบบไม่ทำร้ายช้างคือทางออกและโอกาสของธุรกิจการท่องเที่ยวทั่วโลกในอนาคตองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก World Animal Protection ยืนหยัดเคียงข้างช้างไทย โดยมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาสวัสดิภาพช้างตลอดมาผ่านการสนับสนุนให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน “ปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้าง” ทุกเดือน ตั้งแต่ช่วงวิกฤตโควิด-19 ปีพ.ศ.2563 จนถึงปัจจุบัน เป็นจำนวน 9 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด เพื่อให้ปางช้างสามารถอยู่รอด และพัฒนามาตรฐานสวัสดิภาพเข้มแข็งขึ้นได้แม้ในภาวะยากลำบาก ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่จำเป็นต่อการดูแลช้างและควาญช้าง อาทิ ค่าอาหารช้าง ค่ารักษาพยาบาลช้าง เงินเดือนควาญช้าง เป็นต้นรวมงบประมาณกว่า 20 ล้านบาทต่อปี และที่ผ่านมาองค์กรฯ ยังขยายความช่วยเหลือปางช้างผ่านการให้เงินทุนงบประมาณ 2 ล้านบาท ผ่าน ‘โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง’ (Build Back Better for Elephants) โดยล่าสุดปีนี้องค์กรฯ พร้อมเดินหน้าเปิดรับสมัครปางช้างทุกแห่งที่มีความมุ่งมั่นจะพัฒนาสวัสดิภาพช้างให้สูงยิ่งขึ้น เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้างที่เป็นจริงได้อย่างยั่งยืน

นายฉัตรณรงค์ เมืองวงษ์ ผู้จัดการแคมเปญสัตว์ป่า กล่าวว่า “ในโอกาสวันช้างไทยซึ่งตรงกับวันที่ 13 มีนาคมของทุกปี องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลกขอประกาศเจตนารมณ์ว่าจะเราจะยืนหยัดเคียงข้างช้างไทย และปางช้างที่เป็นมิตรต่อช้าง ตลอดจนปางช้างทั่วไปที่มีความมุ่งมั่นในการปรับเปลี่ยนและพัฒนาสวัสดิภาพช้าง ผ่านโครงการความร่วมมือต่างๆ อีกมากมาย รวมถึงการรณรงค์กับภาครัฐและประชาชนทั่วไปให้เห็นความสำคัญของสวัสดิภาพช้างมากยิ่งขึ้น ตลอดจนหยุดสนับสนุนกิจกรรมท่องเที่ยวที่เป็นการทำร้ายช้าง”

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาองค์กรฯ ได้มุ่งมั่นที่จะยกระดับการพัฒนาสวัสดิภาพช้างให้สูงขึ้นอีก โดยร่วมมือกับปางช้างทุกแห่งที่มีความมุ่งมั่นจะปรับเปลี่ยนและพัฒนาสวัสดิภาพช้างให้สูงยิ่งขึ้นอีก 4 ปางช้าง ด้วยการให้เงินทุนผ่าน “โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง” (Build Back Better for Elephants) ใช้งบประมาณรวมกว่า 2 ล้านบาท ดังนี้
– การติดตั้งระบบน้ำบาดาลและการปลูกกล้วย ณ Sappraiwan Elephant Resort & Sanctuary จ.พิษณุโลก (พฤศจิกายน 2564 – พฤษภาคม 2565)
– การปลูกกล้วย อ้อย และหญ้าเนเปียร์ ณ Elephant Peace Project จ.เชียงราย (พฤศจิกายน 2564 – พฤษภาคม 2565)
– การทดลองเปลี่ยนโซ่ผูกช้างเป็นวัสดุสังเคราะห์น้ำหนักเบา ณ Somboon Legacy Foundation จ.กาญจนบุรี (กันยายน 2565 – ปัจจุบัน)
– การก่อสร้างที่อยู่สำหรับช้างชราเพื่อช่วยเหลือช้างเพิ่ม ณ BEES – Burm and Emily’s Elephant Sanctuary (ธันวาคม 2565 – ปัจจุบัน)
สำหรับ ‘โครงการพรุ่งนี้ที่ดีกว่าของช้าง’ (Build Back Better for Elephants) ประจำปี 2566 นี้กำลังจะเปิดรับผู้สมัครเร็วๆ นี้ โดยปางช้างทุกแห่งที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์และช่องทางโซเชียลมีเดียขององค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมของงานได้ที่ www.worldanimalprotection.or.th
เครดิตภาพถ่าย World Animal Protection/Nicolas Axelrod

เกี่ยวกับองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก (World Animal Protection) เป็นองค์กรพัฒนาเอกชนระดับโลกมีสำนักงาน 14 แห่งทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งได้มีการดำเนินการเพื่อปกป้องสัตว์จากความทุกข์ทรมาน มาเป็นเวลา 55 ปีโดยมุ่งเน้นการยกระดับ สวัสดิภาพสัตว์ และยุติการทุกข์ทรมาน และการทารุณกรรมสัตว์อย่างถาวร โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ ณ ประเทศอังกฤษ ที่ผ่านมาองค์กรฯ ได้ดำเนินกิจกรรมผ่านโครงการต่างๆ ในประเทศไทย อาทิ โครงการส่งเสริมระบบอาหารอย่างยั่งยืน โดยยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ฟาร์ม การยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ที่อยู่ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิต ช้างไทยให้ดีขึ้นและเพื่อให้สัตว์ป่าทุกตัวได้มีโอกาสที่จะมีชีวิตอย่างมีอิสระตามธรรมชาติโดยตระหนักถึงความสำคัญ ของคุณภาพชีวิตสัตว์ที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพชีวิตมนุษย์ และสิ่งแวดล้อมอย่างเกื้อกูลกัน

องค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก ประเทศไทย
คุณอภิลักษณ์ พวงแก้ว โทร. 0889463645 Email: aphiluck@worldanimalprotection.or.th