การรู้ประวัติศาสตร์จีน ทำให้เราเข้าใจความทุกข์ระทมขมขื่นของคนจีน
เข้าใจพรรคคอมมิวนิสต์จีน
เข้าใจความเป็นมาของจีน และเข้าใจประเทศจีนปัจจุบัน…!

จาก จิ๋นซี ฮ่องเต้
สู่ พระนางซูสี ไทเฮา
จาก พระนางซูสี ไทเฮา
สู่ ด๊อกเตอร์ซุน จงซาน

จาก ด๊อกเตอร์ซุน จงซาน
สู่ จอมพล เจียง ไคเช็ค

จากจอมพล เจียง ไคเช็ค
สู่ เหมา เจ๋อตง

จาก เหมา เจ๋อตง-โจว เอินไหล สู่ เติ้ง เสี่ยวผิง

จาก เติ้ง เสี่ยวผิง
สู่ เจียง เจ๋อหมิน-หู จิ่นเทา

จาก หู จิ่นเทา
สู่ สี จิ้นผิง……

ความผิดพลาด-ล้มเหลวจากราชวงศ์ฉิน ถึงราชวงศ์ชิง ส่งให้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราษฎร์ล่มสลาย

ความผิดพลาดของจอมพลเจียงไคเช็ค ส่งผลให้ประชาชนจีนไม่ยอมรับและพ่ายแพ้สงคราม กลางเมือง ให้กับพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ความผิดพลาดของเหมา เจ๋อตง ต่อนโยบายก้าวกระโดดและการปฏิวัติวัฒนธรรม

ผู้ที่จะไม่ยอมรับความผิดพลาดตลอดประวัติศาสตร์ชาติจีน ๕,๐๐๐ ปี คือ เติ้ง เสี่ยวผิง

เติ้ง เสี่ยวผิง คือมนุษย์ผู้ที่สวรรค์ส่งลงมา สร้างประชา ชาติจีนใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองอย่างพลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน

เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้กล้าตัดสินใจในฉับพลันทันทีที่ดำเนินการกวาดล้างผู้ชุมนุมก่อความไม่สงบ ณ จตุรัสเทียนอันเหมิน ยอมสละ ๑๐๐,๐๐๐ ชีวิตเพื่อให้ประเทศชาติและประชาชน ๑,๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ คนดำรงอยู่ได้ประเทศชาติไม่แตกสลาย

เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้เป็นไข่ในหินของเหล่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์รุ่นแรกปกป้องจนรอดพ้นภัยแห่งการปฏิวัติ วัฒนธรรมสามารถนำนโยบาย ๔ ทันสมัยและปฏิรูป-เปิดประเทศมาใช้ได้สำเร็จ จากการลักลอบวางพิมพ์เขียวอย่างลับสุดยอดระหว่างนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล ประธานาธิบดีหลิว ส้าวฉี และ เติ้ง เสี่ยวผิง

เติ้ง เสี่ยวผิง รอดตายจากการถูกรุมทำร้ายของพวกเยาวชนเรดการ์ด

เติ้ง เสี่ยวผิง ถูกจอมพลเย่ เจี้ยนอิง (ยับ เกี้ยนยิน-ฮากกา) อุ้มไปหลบภัยในกว่างโจว จากนั้นยึดอำนาจจากแก๊งสี่คนได้สำเร็จ เรียกเติ้ง เสี่ยวผิง มาปักกิ่ง เพื่อเป็นผู้นำสูงสุด

เติ้ง เสี่ยวผิง บริหารประเทศจีนจนสำเร็จ พลิกฟ้า-คว่ำแผ่นดินเนรมิตเมืองใหม่อย่างหมู่บ้านเซินเจิ้น จนเจริญรุ่งเรืองกลายเป็นมหานครเซินเจิ้นได้ภายในระยะเวลาเพียง ๔๐ ปี

เติ้ง เสี่ยวผิง ผู้ซึ่งจะไม่ยอมรับความผิดพลาดตลอดประวัติศาสตร์ชาติจีน ๕,๐๐๐ ปี

เติ้ง เสี่ยวผิง มองหาคนหนุ่มรุ่นถัดไปเพื่อมารับไม้บริหารประเทศชาติต่อไปโดยมีโจทย์ว่า “ห้ามผิดพลาด อย่างเด็ดขาด”

เติ้ง เสี่ยวผิง ค้นพบดาวรุ่ง ผู้ว่าการมหานครเซี่ยงไฮ้ ที่มีนามว่า “เจียง เจ๋อหมิน”

เติ้ง เสี่ยวผิง ถึงแก่อสัญกรรม เจียง เจ๋อหมิน ก็ขึ้นเป็นผู้นำสูงสุด

เจียง เจ๋อหมิน บริหารประเทศกำหนดวาระให้ผู้นำสูงสุดที่ตำแหน่งประธานาธิบดีในฝ่ายบริหารและเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีนฝ่ายนโยบายไว้ที่ ๒ สมัย รวม ๘ ปี

เจียง เจ๋อหมิน มองหาคนหนุ่มรุ่นใหม่ขึ้นมาแทนที่ตัวเอง

เจียง เจ๋อหมิน พบเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำเขตปกครองตนเองธิเบตผู้มีนามว่า “หู จิ่นเทา”

เจียง เจ๋อหมิน บริหารประเทศครบวาระ ๘ ปี หู จิ่นเทา ขึ้นมาเป็นผู้นำสูงสุด

หู จิ่นเทา บริหารประเทศตามแนวทางของเติ้ง เสี่ยวผิงและเจียง เจ๋อหมิน

ยุคของหู จิ่นเทา ความเจริญทางเศรษฐกิจของจีนรุ่งเรืองยิ่งขึ้นด้วยทีมเศรษฐกิจชนิดเทียบเท่าพระเจ้าซาร์

ซาร์เศรษฐกิจของหู จิ่นเทา…มีหลี่ เผิงเป็นครูใหญ่ ตามด้วยจู
หรงจี มาดามอู๋อี๋ และ เวิน เจียเป่า

หู จิ่นเทา มองหาคนหนุ่มรุ่นใหม่มาแทนที่ตัวเอง พบกับดาวรุ่งเลือดเนื้อเชื้อไขของแกนนำพรรคคอมมิวนิสต์รุ่นแรกนามว่า สี จิ้นผิง

หู จิ่นเทา มั่นใจ สี จิ้นผิง

หู จิ่นเทา พ้นวาระ จึงส่งไม้ต่อให้ สี จิ้นผิง
นับจากสี จิ้นผิง-หูจิ่นเทา และแกนนำพรรคฯ ตั้งแต่เจียง เจ๋อหมิน ลงมาได้ตกลงกันว่าจะสนับสนุนให้ สี จิ้นผิง ผงาดเป็นผู้นำสูงสุดของชาติจีน อย่างไม่มีกำหนดระยะเวลาเพื่อให้ สี จิ้นผิง สร้างชาติจีนไว้ยันสหรัฐอเมริกา

สี จิ้นผิง พัฒนาจีนได้อย่างเจริญก้าวหน้าไม่ต่างจาก เติ้ง เสี่ยวผิง และต้องใช้กลยุทธ์-กุศโลบายในการแก้ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศในยุคสงครามเย็นครั้งที่ ๒ ของโลกปัจจุบัน

เราจะต้องศึกษาประวัติศาสตร์จีน เพียงแค่ยุคปัจจุบันนับแต่
ด๊อกเตอร์ซุน จงซาน โค่นล้มราชวงศ์ชิง ลงมาจนถึงยุคสงครามกลางเมือง มาถึงปัจจุบัน จึงสามารถเข้าใจประเทศจีนใหม่ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง

ประชาชาติจีนกล่าวว่า…

ไม่มีด๊อกเตอร์ซุน จงซาน (ซุนยัตเซ็น) ก็ไม่มีสาธารณรัฐจีน

ไม่มีพรรคคอมมิวนิสต์จีน ก็ไม่มีประเทศจีนใหม่-สาธารณรัฐประชาชนจีน

ไม่มีเหมา เจ๋อตง ก็ไม่มีชัยชนะต่อสงครามกลางเมือง

ไม่มีเติ้ง เสี่ยวผิง ก็ไม่มีประเทศจีนที่เจริญก้าวหน้าพลิกฟ้า-คว่ำแผ่นดิน

จากเหมา เจ๋อตง จูเต๋อ โจว เอินไหล ถึง เติ้ง เสี่ยวผิง

จากเติ้ง เสี่ยวผิง สู่ เจียง เจ๋อ
หมิน หู จิ่นเทา สี จิ้นผิง

= สาธารณรัฐประชาชนจีน มหาอำนาจอันดับ ๑ ของโลกปัจจุบัน และในอนาคต

* 加油中国 – 中国加油

* 祖国万岁 – 中华人民共和国万岁 !

* 中 – 泰 友谊万古长青!

*

*

叶文昌

กฤตย์ เยี่ยมเมธากร
นครเชียงใหม่
๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓