อธิบดีกรมทางหลวงเผย “ศักดิ์สยาม” สั่งลงพื้นที่ตรวจสอบด่วน เหตุคานสะพานกลับรถร่วงทับยานพาหนะถนนพระราม 2 สมุทรสาคร เผยขณะเกิดเหตุกำลังเตรียมเทพื้นสะพานใหม่ คานสะพานตัวริมสุดกลับร่วงลงมา ชี้เป็นบทเรียนครั้งใหญ่ พร้อมแสดงความเสียใจ รับผิดชอบเยียวยาเหยื่อ ปิดช่องทางหลักขาเข้าจนกว่าจะมั่นใจ ย้ำเข้มงวดโครงการทางหลวงกว่า 200 โครงการจากกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชิ้นส่วนคานสะพานกลับรถพังลงมาทับรถยนต์ เหตุเกิดบริเวณสะพานกลับรถ ถนนพระรามที่ 2 กม.34 หน้าโรงพยาบาลวิภาราม สมุทรสาคร ต.บางกะเจ้า อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เป็นเหตุให้รถเก๋งเชฟโรเลตถูกคานสะพานยาวประมาณ 10 เมตร น้ำหนักประมาณ 5 ตัน หล่นทับรถทั้งคันจนขาดสองท่อน คนที่นั่งข้างคนขับไม่ทราบชื่อ เพศหญิง เสียชีวิตติดอยู่ด้านใน ส่วนคนขับรถเก๋งได้รับบาดเจ็บ ขณะที่รถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ ด้านหน้ากระโปรงรถถูกคานสะพานทับไว้ ส่วนคนขับรถและผู้โดยสารทั้งหมดปลอดภัย นอกจากนี้ ยังมีรถบรรทุกน้ำมันได้รับความเสียหาย และยังพบว่า นายชาญ ชาวทอง อายุ 48 ปี คนงานก่อสร้าง เสียชีวิตที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 2 ราย บาดเจ็บรวม 2 คน ได้แก่ ผู้ใช้รถใช้ถนน และนายฉัตรชัย ศิริมาตร์ อายุ 27 ปี ช่างก่อสร้าง ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ได้สั่งการด่วนให้อธิบดีกรมทางหลวง พร้อมด้วยผู้อำนวยการศูนย์สร้างและบูรณะสะพานที่ 3 (ปทุมธานี) และผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ร่วมลงพื้นที่ทันที เพื่อตรวจสอบ และหาสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากการลงพื้นที่พบว่า ขณะที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่คุมงาน และคนงานอยู่ระหว่างการเตรียมความเรียบร้อยพื้นที่เพื่อจะเทพื้นสะพานใหม่ หลังจากที่ได้ทุบพื้นสะพานช่วงที่ชำรุดเสียหายออกแล้ว ทันใดนั้นคานสะพานลอยตัวริมสุดได้ร่วงหล่นลงมาทับรถยนต์ที่สัญจรบนถนนพระราม 2 เป็นเหตุให้มีรถได้รับความเสียหายจำนวน 3 คัน ประชาชนในรถเกิดเหตุเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน และเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 คน ซึ่งได้ประสานให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลแล้ว ทั้งนี้ ได้ปิดช่องจราจรช่องทางหลัก (ขาเข้า) โดยให้วิ่งทางคู่ขนานแทน เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทาง
“สะพานกลับรถดังกล่าวก่อสร้างเมื่อปี 2536 ซึ่งได้ใช้งานมาเป็นระยะเวลานานเกือบ 30 ปี จึงมีความจำเป็นต้องบูรณะซ่อมแซมสะพาน โดยเริ่มเข้าซ่อมแซมสะพานตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.ที่ผ่านมา กำหนดแล้วเสร็จในเดือน ส.ค. 2565 ประกอบด้วยการทุบรื้อพื้นสะพานและเปลี่ยนพื้นใหม่ จำนวน 2 ช่วง งานสกัดโครงสร้างสะพานที่เสียหาย ส่วนที่อยู่บนคานคอนกรีตอัดแรง รวมทั้งบริเวณพื้นที่ส่วนของทางขึ้นทางลง เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จจะใช้งานได้อย่างแข็งแรงปลอดภัย เพิ่มประสิทธิภาพในการกลับรถขาเข้าบนถนนพระราม 2 ที่ผ่านมากรมทางหลวงได้เน้นย้ำเรื่องมาตรการความปลอดภัยในระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้ใช้ทางได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ครั้งนี้นับเป็นบทเรียนครั้งใหญ่ ที่กรมทางหลวงจะต้องทบทวนและพิจารณามาตรการเสริมความปลอดภัยด้านต่างๆ เพิ่มเติมมากขึ้นในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจก่อนจะเริ่มงานโครงการต่อไป” นายสราวุธกล่าว
อธิบดีกรมทางหลวงกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ โดยจะตั้งกรรมการตรวจสอบรายละเอียดข้อเท็จจริง วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดขึ้นโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ให้รายงานผลภายใน 14 วัน และให้ระงับการซ่อมแซมโครงสร้างสะพานกลับรถนี้ รวมทั้งปิดการจราจรช่องทางหลักขาเข้าไว้ก่อน จนกว่าจะมีความมั่นใจในความปลอดภัย และได้สั่งการให้ตรวจสอบขั้นตอนการทำงาน วัสดุชิ้นส่วนงานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักร และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้มีความพร้อม หากพบว่าส่วนใดส่วนหนึ่งไม่พร้อม ไม่ปลอดภัย ให้หยุดงานก่อสร้างทันที โดยเน้นย้ำให้ใช้มาตรการความปลอดภัยระหว่างการก่อสร้างอย่างสูงสุด ซึ่งมีกว่า 200 โครงการทั่วประเทศ เพื่อป้องกันและไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อประชาชนผู้ใช้ทางขึ้นอีก ทั้งนี้ กรมทางหลวงพร้อมที่จะรับผิดชอบเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่ และขออภัยประชาชนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้