พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร) หรือ PCT เดินหน้า”บูรพา 491″ ตัดวงจรแก๊งคอลเซ็นเตอร์

 

เมื่อวันที่ 29 ก.ค.65 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอส.ตร) หรือ PCT  เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา 491” ขยายผลจับกุมผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่งคนไทยไปทำงานในประเทศกัมพูชาได้อีก 2 ราย เผยเคยทำมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้าง 1,000 บาทต่อหัว อาศัยบ้านตนเองเป็นที่พักเหยื่อก่อนพาข้ามแดนไปกัมพูชา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อาศัยประเทศเพื่อนบ้านเป็นฐานปฏิบัติการ คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค.65 เจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. ชุดปฏิบัติการที่ 5 ร่วมกับ กก.ปพ.บก.สส.ภ.2 หรือ “บูรพา 491”  จับกุมตัว นายอรรถชัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ขณะลักลอบนำพาคนไทยไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านทางช่องทางธรรมชาติ ที่เรียกกันว่า “ช่องทางธรรมชาติ คลองบ้านตาโจ๊ย ใกล้กับวัดป่าหนองเอี่ยน” โดยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ยุทธวิธีเข้าจับกุมแบบฉับพลัน (Car block) หยุดรถคนร้ายไว้ได้ก่อนจะข้ามแดน จากการสืบสวนขยายผลทราบว่ามีผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย ยังหลบหนีอยู่ในประเทศไทย โดยขบวนการนี้ลักลอบพาคนไทยข้ามแดนไปทำแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ประเทศกัมพูชา มาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 คน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวอีกว่า วันนี้ (29 ก.ค.65) ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.ภ.2  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.ภ.2/หน.ชุดปฏิบัติการ PCT ชุดที่ 5 พ.ต.อ.สหัส ใจเย็น รอง ผบก.สส.บช.ภ.2  พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.(สอบสวน) บก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.สืบสวน ภ.จว.ระยอง, พ.ต.อ.ธนเสฏฐ์ ประชาชัยศรี ผกก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ หาญแท้ รอง ผกก.กก.1 บก.ปส.3  พร้อมกำลังชุดปฏิบัติการ PCT ที่ 5 และ บูรพา 491 บก.สืบสวน ภ.2 นำกำลังบุกจับกุมผู้ร่วมขบวนการอีก 2 ราย คือ น.ส.รุ่งฤดี (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี อยู่ ต.กาบิน อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.415/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค.65 และนายพงษ์ธนา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี อยู่ ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ จ.416/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค.65 ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น,ร่วมเป็นอั้งยี่,ร่วมกันเป็นซ่องโจร,ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ,ร่วมกันโดยทุจริตหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน และร่วมกันฟอกเงิน” โดยจับกุม น.ส.รุ่งฤดี ขณะกำลังขับรถกระบะ อีซูซุ ดีแมกซ์ ทะเบียนชลบุรี ได้ที่บริเวณ ม.4 ถ.บายพาส ต.บ้านใหม่หนองไทร อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว จากนั้นนำหมายค้นของศาลจังหวัดสระแก้ว ที่ 125/2565 ลงวันที่ 27 ก.ค.65 เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งใน ต.โนนหมากนุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นบ้านที่ น.ส.รุ่งฤดี เคยนำเหยื่อที่ถูกหลอกไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์มาพักไว้ก่อนข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติ ตรวจยึด รถยนต์กระบะคันดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นรถในการกระทำความผิด โทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 7 เล่ม