กระบี่-หนุ่มใหญ่เมาดุ ฉุนเพื่อนร่วมงาน-เรื่องลัดคิวรถ ชัก 9 มม.ยิงบาดเจ็บ คางานเลี้ยงปีใหม่บริษัทต่อหน้าลูกเมีย หลังก่อเหตุชิ่งหนี-แต่กรรมตามทันสะดุดล้ม ถูกเพื่อนร่วมงานรุมสกรัมเจ็บ-หามส่ง รพ.

ร.ต.อ.ทรรศน์พงศ์ เพ็ชรสุทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองกระบี่ ได้รับแจ้งเมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 29 ม.ค.66 เกิดเหตุยิงกัน ที่หน้าเดอะ แพลทตินัม ฮอลล์ สถานที่จัดงานเลี้ยงริมถนนมหาราช ในเขตเทศบาลเมืองกระบี่ มีผู้บาดเจ็บ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.สัญญา ธรรมรัตน์ สว.สส.สภ.เมืองกระบี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนและสายตรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ และกู้ภัยมูลนิธิกระบี่พิทักษ์ประชา

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณลานจอดรถด้านหน้าอาคารจัดเลี้ยง พบรถกระบะยี่ห้อมิตซูบิชิ ตอนครึ่ง สีแดง ทะเบียนกระบี่ จอดเปิดประตูฝั่งคนขับทิ้งไว้ ที่พื้นข้างรถและที่เบาะนั่งคนขับพบคราบเลือดกองใหญ่ ที่วางเท้าฝั่งคนขับพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 1 ปลอก ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นายสมคิด แบนเสมอ อายุ 36 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระสุนเข้าที่ไหล่ขวา 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด อาการสาหัส และถูกนำตัวส่ง รพ.ไปก่อนหน้า

นอกจากนี้ ที่พื้นใกล้รถยังพบกองเลือดอีก 1 กอง และอาวุธปืนสั้นแบบแม็กกาซีน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อซิกซาวเออร์ มีทะเบียน ตกอยู่ 1 กระบอก มีปลอกกระสุนขัดอยู่ที่ปืน 1 ปลอก ภายในแม็กกาซีนมีกระสุนคาอยู่ 12 นัด เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนเจ้าของปืนและเป็นคนยิง นายสมคิด ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อคือ นายปรมาพร แก้วเทพ อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณใบหน้า ถูกนำตัวส่งรักษา ที่ รพ.กระบี่

จากการสอบถาม นายศรราม ศักดิ์จันทร์ อายุ 26 ปี เพื่อนของผู้บาดเจ็บทั้งสอง เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุบริษัทที่พวกตนทำงาน จัดงานเลี้ยงปีใหม่ให้กับพนักงาน โดยคนเจ็บทั้ง 2 คน เป็นพนักงานขับรถบรรทุกของบริษัท ช่วงเกิดเหตุ งานเลี้ยงเลิกแล้ว ต่างกำลังแยกย้ายกันกลับบ้าน ขณะนั้น นายปรมาพร (ผู้ก่อเหตุ) ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา ได้ไปมีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงานอีกคน แล้วเข้าไปกระชากคอเสื้อ จากนั้น นายสมคิด ก็พยายามเข้ามาพูดห้ามปราม แต่ถูก นายปรมาพร ด่าแม่ จึงทำกลับว่าด่าแม่ทำไม จากนั้นภรรยาก็เข้ามาพานายสมคิดไปขึ้นรถ จังหวะเปิดประตูรถ นายปรมาพร ก็เดินอ้อมมาที่หน้ารถ แล้วชักปืนออกมายิงใส่ไป 2-3 นัด ตนและเพื่อนร่วมงานเห็นจึงจะวิ่งเข้าไปช่วย แต่ นายปรมาพร พยายามวิ่งหนีและไปสะดุดล้มลง จึงถูกเพื่อนๆร่วมงานชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว

ด้าน น.ส.วิกานดา คงแก้ว อายุ 33 ปี ภรรยานายสมคิด เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุ ตนยืนอยู่ใกล้กับสามี พยายามดึงสามีกลับมาขึ้นรถ โดยมีลูกอีก 2 คน อยู่ใกล้ๆ ระหว่างกำลังขึ้นรถก็เห็น นายปรมาพร ใช้ปืนจ่อยิงสามีหลายนัดต่อหน้าตนและลูกๆ ตนพยายามช่วยสามีด้วยการผลักประตูรถไปหนีบแขน นายปรมาพร จนวิ่งหนีออกไป จากนั้นก็รีบช่วยพาสามีส่ง รพ. ส่วนสาเหตุนั้น อาจจะมาจากความขัดแย้งในที่ทำงาน เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อน สามีเล่าว่ามีปัญหาทะเลาะกับผู้ก่อเหตุ เรื่องลัดคิววิ่งรถกัน แต่คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบปากคำพยานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอีกครั้ง และรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ก่อนสรุปสาเหตุที่ชัดเจน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป