คดีตำรวจรีดเงินบานปลาย ดาราสาวชาวไต้หวัน “น.ส.อัน หยู ฉิง” ร้องตำรวจสากลให้เข้ามาช่วยเหลือเรื่องคดีแล้ว ยันตำรวจไทยโกหก ถูกไถเงินจริง แถมบุหรี่ไฟฟ้าไม่ใช่ของตัวเอง แต่ตำรวจยื่นมาให้แล้วถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ด้านตำรวจไทยตามตัวโชเฟอร์รถแกร็บที่ไปรับดาราสาว กับเพื่อนรวม 4 คนจากอาร์ซีเอจนไปเจอด่าน เข้าให้การ อัดดาราสาว ยันว่าเมากลิ่นเหล้าหึ่งทุกคน พูดจาโวยวาย ตลอดทาง รวมทั้งกับตำรวจที่เรียกลงไปตรวจค้น และไม่เห็นเหตุการณ์อะไรผิดปกติ เพราะไปพูดคุยกันด้านหลังรถ แค่หันไปมองเป็นระยะ หาตัวโชเฟอร์แท็กซี่อีกคันที่รับ 4 ชาวไต้หวันจากด่านไปส่งโรงแรม “รองโจ๊ก” ลั่น ใครผิดต้องดำเนินคดี ทั้งตำรวจและดาราสาว ถ้าคดีไม่คืบหน้าจะลงไปดำเนินการเอง

กรณี น.ส.อัน หยู ฉิง หรือชาร์ลีน อัน ดาราสาวชาวไต้หวัน โพสต์อินสตาแกรม (ไอจี) แฉแหลกถูกตำรวจตั้งด่านตรวจใกล้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน เรียกตรวจหนังสือเดินทางกล่าวหาว่าไม่มีวีซ่า ทั้งที่เข้าเมืองด้วยวีซ่าแบบ ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ VOA (Visa on arrival) จากนั้นถูกรีดเงินจำนวน 27,000 บาท หลังกลายเป็นข่าวครึกโครม พล.ต.ต.สำเริง สวนทอง รอง ผบช.น. ตรวจสอบเบื้องต้นออกมาชี้แจงว่า ตำรวจฝ่ายปราบปรามตั้งด่านจริงทั้งหมด 7 นาย ไม่มีการรีดไถเงิน แถมใจดีไม่ได้ดำเนินคดีข้อหามีบุหรี่ไฟฟ้า แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สั่งการให้ตรวจสอบให้ได้ข้อเท็จจริงถึงที่สุด เนื่องจากกระทบการท่องเที่ยวประเทศไทย

ด้านพล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ได้เรียก พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ห้วยขวาง เข้าประชุมนานเกือบ 2 ชม. ก่อนออกมาเปิดเผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ ผู้บังคับบัญชาไม่ได้นิ่งนอนใจสั่งการให้ตนมาเร่งรัดทำสำนวนอย่างตรงไปตรงมาตามความจริงให้ปรากฏ ความจริงนั้นต้องอ้างอิงตามหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงพยานแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้ บก.น.1 เข้ามาช่วย สน.ห้วยขวาง รวบรวมสำนวนให้รัดกุมมากที่สุด

ขณะที่ น.ส.อัน หยู ฉิง ชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่า ไม่ได้ดื่ม ยืนยันว่าเมา 100 เปอร์เซ็นต์ อยากบอกให้นักท่องเที่ยวสาวออกมาพูดความจริงเพราะตอนนั้นเธอมีอาการเมา ก็ให้สังคมตัดสินว่าจะเชื่อคนเมาหรือคนไม่เมา ส่วนกล้องหน้ารถตน บันทึกภาพและเสียงได้จะฟอร์แมตทุก 7 วัน เพราะความจำน้อย แต่นำเมมโมรีการ์ดให้ตำรวจไปตรวจสอบแล้ว” นายวิเชษฐ์กล่าว