ทางการจีนยอมรับมีผู้เสียชีวิตโควิดในช่วงแค่เดือนเดียวพุ่งแล้วเกือบ 60,000 คนนับตั้งแต่ปักกิ่งผ่อนปรนข้อจำกัดสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ให้เป็นศูนย์ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565
สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 เกือบ 60,000 คน ในช่วงเวลาแค่เดือนเดียวคน ระหว่างวันที่ 8 ธันวาคม ถึง 12 มกราคม ถือเป็นตัวเลขเหยื่อชุดแรกที่เจ้าหน้าหน้าที่หน้าหน้าที่แดนมังกรเผยแพร่ออกมา นับตั้งแต่ปักกิ่งผ่อนปรนข้อจำกัดสกัดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2565 โดย ค่าเฉลี่ยอายุของผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 80.3 ปี โดยมากกว่า 90% ของผู้เสียชีวิต อายุมากกว่า 65 ปี และส่วนใหญ่ต่างมีโรคประจำตัว
ด้านบรรดานักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง ประมาณการว่า อาจมีชาวจีนเกือบ 1 ล้านคนเสียชีวิตในฤดูหนาวปีนี้ ส่วนนักวิเคราะห์ความเสี่ยงทางสุขภาพของสถาบันวิจัย Airfinity คาดหมายว่าจีนจะมีผู้เสียชีวิต 11,000 คนและติดเชื้อ 1.8 ล้านคนต่อวัน โดยจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจะแตะระดับ 1.7 ล้านคนในเดือนเมษายน 2565
ขณะที่สถาบันวิจัยที่มีสำนักงานในสหราชอาณาจักรแห่งนี้ ระบุว่า แบบจำลองของพวกเขามีพื้นฐานจากข้อมูลที่มาจากมณฑลต่างๆ ของจีน ก่อนมีการเปลี่ยนแปลงวิธีการรายงานผู้ติดเชื้อ มาประกอบกับอัตราการเติบโตของจำนวนผู้ติดเชื้อจากประเทศอื่นๆ ที่เคยใช้นโยบายโควิดเป็นศูนย์ ครั้งที่พวกเขายกเลิกข้อจำกัดเหล่านั้น
อย่างไรก็ตามรัฐบาลจีนออกมาระบุว่า การแพร่ระบาดโควิดระลอกใหม่จนปัจจุบันอาจถึงจุดสูงสุดแล้ว หลังข้อมูลพบว่าเคยมีคนไข้ราว 2.9 ล้านคนที่เข้ารับการรักษาตามสถานพยาบาลต่างๆ ในวันที่ 23 ธันวาคม 2565 แต่ตัวเลขลดลงมาเหลือแค่ 477,000 คนทั่วประเทศ ในวันที่ 12 มกราคม 2566
เจ้าหน้าที่บอกว่าจำนวนคนไข้อาการหนักในโรงพยาบาลยังคงอยู่ในระดับสูง แต่ดูเหมือนว่าได้ผ่านจุดพีกสุดมาแล้วในช่วงต้นเดือนมกราคม 2566 พร้อมระบุเป้าหมายหลักในเวลานี้คือจับตาสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ชนบท มุ่งเน้นตรวจหาเชื้อให้พบตั้งแต่เนิ่นๆ และให้การรักษาแก่กลุ่มคนที่อ่อนแอที่สุด