นายกรัฐมนตรีขอเยาวชนคิดบวกช่วยกันดูแลบ้านเมือง อย่าขัดแย้ง ลั่นความเป็นไทยใจรักชาติเป็นพลังอำนาจทรงคุณค่าที่สุด ย้ำคนไทยโชคดีมี 3 สถาบันหลักของชาติขอช่วยกันรักษาไว้

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2566 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม นำตัวแทนเยาวชน เยี่ยมชมห้องทำงาน ณ ห้องทำงานนายกรัฐมนตรี ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล จากนั้นนายกรัฐมนตรี เปิดงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2566 และกล่าวให้โอวาทแก่เด็กและเยาวชน ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี ได้รับชมการแสดง Theme: ความเป็นไทย ใจรักชาติ ก่อนเปิดงานตอนหนึ่งว่า ขอยิ้มให้กันก่อนแล้วกัน ดีใจได้เจอทุกคนทุกวัย เด็กๆ น่ารักทุกคน ทุกคนเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติและจากการแสดงทำให้ได้เห็นความรัก ความสามัคคีเป็นที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยของเรา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากว่างเว้นการจัดงานมาหลายปีเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 วันนี้รู้สึกดีในได้มาพบลูกหลานเยาวชนไทย ที่เปี่ยมด้วยความสามารถหลากหลาย รูสึกภูมิใจในนามนายกฯ ที่เห็นการแสดงออก ถึงการประพฤติปฏิบัติที่น่าภูมิใจเป็นการนำความรู้ความสามารถเกิดประโยชน์กับบ้านเมือง ซึ่งบทเพลงรักชาติ ที่ถ่ายทอดออกมา ขอให้ฟังและแปลความหมายให้ดี เพลงอาจไม่โมเดิร์น แต่มีความหมาย ที่ถ่ายทอดความรักชาติผ่านบทเพลง

คำขวัญวันเด็กปีนี้“รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ความหมายสั้นๆ แต่ลึกซึกในทางปฏิบัติ รวมทั้งหน้าที่ที่มีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเหมือนในบทเพลงที่ว่าความรักอันดี รักเท่าไหนก็ไม่ยั่งยืนเท่าความรักชาติของเรา ขณะเดียวกันเด็กของเราต้องมีหน้าที่ของตนเอง เพื่อเป็นพลเมืองไทยที่มีคุณภาพทำหน้าที่ต่อสังคมและประเทศชาติต่อไป โดยต้องรู้ว่าการเป็นพลเมืองดีคืออะไร การเคารพกฎระเบียบ กติกาของบ้านเมืองทำอย่างไรไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน

กฎระเบียบของบ้านเมืองและต้องตระหนักใน 3 คำ คือ สิทธิ หน้าที่ และเสรีภาพ ที่ยึดโยงกันหมด แยกปฏิบัติไม่ได้ ถ้าปฏิบัติพร้อมกันบ้านเมืองจะสงบเรียบร้อยมีเสถียรภาพ ทุกคนได้มายิ้มมานั่งกันอยู่แบบนี้ พ่อแม่ภาคภูมิใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่กับสังคมไทยมานานแล้ว อย่าหายไปจากสังคมไทยของเรา

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่ สิทธิ หน้าที่ และเสรีภาพ ต้องไม่สร้างผลกระทบต่อคนอื่นและสังคม เราต้องภูมิใจประวัติศาสตร์ชาติของเรา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ โดยต้องมีความจงรักภักดีกับสถาบันหลักทั้ง 3 นี้ ขณะที่การมีวินัยทำให้ทุกคนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข ถ้าคนในสังคมเคารพกติกากฎระเบียบไม่วุ่นวายไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน กฎหมายกระบวนการยุติธรรมมีอยู่แล้วถ้าทุกคนปฏิบัติตามเคารพซึ่งกันและกันก็เดินหน้าได้ทั้งหมดไม่เกิดปัญหา

ส่วนการใฝ่ความดี ต้องฝึกตนเองให้คิดดีคิดบวกถ้าคิดลบทุกวันก็ไปไม่ได้อยู่แล้ว ต้องคิดบวกคิดเพื่อประโยชน์ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัว ถ้าคิดแต่ตัวเองก็จะมองว่าอะไรก็ไม่ดีและไม่ใช่ แต่ต้องมองภาพรวมสังคมว่ามีอะไรที่ดีขึ้นแล้วบ้าง และย้ำว่าบ้านเมืองสงบ มีเสถียรภาพทำได้ทั้งหมดทั้งสิ่งที่เราต้องการและสิ่งใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทุกอย่างต้องใช้เวลาทำอยู่หลายปีด้วยกันจนกว่าสำเร็จด้วยความร่วมมือพวกเราทุกคน ทำอย่างไรให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้นบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย

เรื่องการคิดบวกก็จะทำให้สามารถดำรงตนภายใต้คุณธรรมอันดีงาม มีกรอบในการประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ดีงามเป็นภูมิคุ้มกันอันเข้มแข็งของเยาวชน เพื่อเติบใหญ่เป็นพลเมืองทรัพยากรที่มีค่าของแผ่นดินต่อไป และขอทุกคนตั้งมั่นในความดี ความเพียร มีสติปัญญาและเข้มแข็ง พร้อมโอบอ้อมอารีผู้อื่นไปด้วย เพื่อทำให้สังคมไทยน่าอยู่มีแต่รอยยิ้ม มีแต่ความสุข ขัดแย้งกันมากๆอยู่ไม่ได้สังคมวุ่นวายเดือดร้อนไปหมดทุกคนต้องช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเราที่สงบสุขให้ได้

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า วันนี้รัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ ซึ่งของดีเรามีอยู่แล้ว ขออย่าลืมความเป็นไทย รักชาติพลังอำนาจของเด็กไทย ซึ่งความเป็นไทยใจรักชาติถือเป็นพลังอำนาจที่ทรงคุณค่าที่สุด เรามีประวัติศาสตร์ยาวนาน มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่รู้จักจากอดีตมาสู่ปัจจุบันจะเป็นพลังยิ่งใหญ่ในการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสังคมเราต่อไป เรามีของดีมากมายเป็น Soft Power ซึ่งเป็นพลังอำนาจที่เรามีอยู่แล้วหลายประเทศมีไม่เท่าเรา ถ้าเราตระหนักคุณค่าสิ่งที่เรามีควบคู่กันเสริมพลังอำนาจของเยาวชนเพิ่มกับเทคโนโลยีสมัยใหม่แรงขับเคลื่อนเหล่านี้ทรงพลังมากยิ่งขึ้น หากเราไม่ลืมแรงผลักดันจากประวัติศาสตร์เอกลักษณ์อัตลักษณ์ สืบสานจากอดีตจนถึงปัจจุบัน

“ถ้าเราใช้พลังของคนรุ่นใหม่บวกกับพลังของความเป็นไทย รักชาติถือเป็นพลังอำนาจที่ทรงคุณค่าที่สุดของเด็กไทย โดยต้องเข้าใจถึงรากเหง้าความเป็นมา ถ้าเราไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ประวัติศาสตร์และความเป็นมาไม่รู้ว่าเราเป็นใครแล้วเราจะรักแผ่นดินผืนนี้ได้อย่างไร ต้องเรียนรู้ก่อน จึงรู้ว่าเป็นแผ่นดินที่ทรงคุณค่าเป็นแผ่นดินศักดิ์สิทธิ์ที่บรรพบุรุษสละเลือดเนื้อมากมายผ่านมหาศาล เพื่อนำไปสร้างสรรค์ต่อยอดไปในวันข้างหน้า”

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่ารัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่ในการขับเคลื่อนต่อไป เพราะฉะนั้นมันต้องทำต่อเนื่อง ทุกอย่างไม่มีใครจะทำสำเร็จได้คนเดียววันเดียว หลายอย่างต้องทำต่อเนื่องตลอดชีวิตก็ต้องทำ ดังนั้นรัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนาอย่างยั่งยืน

“เราโชคดีที่เรามีสถาบันพระมหากษัตริย์เรามีอยู่ 3 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สถาบันหลักของประเทศไทย ต่างชาติล้วนชื่นชมในความเป็นไทยของเรา ในการที่เรามีสถาบันเป็นที่เคารพเป็นหลักชัยให้เราเป็นกำลังใจให้กับพวกเรา สิ่งเหล่านี้คือคุณค่า.ของความเป็นไทยขอให้ทุกคนช่วยรักษาไว้แล้วกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ในช่วงท้าย นายกฯ แนะนำให้ออกกำลังกายเพื่อร่างกายแข็งแรง ให้โหนและปีนต้นไม้เพื่อตัวยืดสูง และกล่าวว่า “พูดมาเยอะแล้ว จริงๆอยากพูดเยอะกว่านี้นานๆเจอกันที ปกติเจอกันบ่อยในโทรทัศน์ แต่นี่คือตัวจริงของนายกฯ ฝากทุกคนไว้ด้วยแล้วกัน ขอให้ช่วยกันดูแลบ้านเมือง”