ตำรวจตามรวบทันควันหนุ่มพม่า วิ่งราวเลสข้อมือทองคำ 5 บาท ที่ห้างทองไทยศิริ ย่านบางบอน หลังก่อเหตุดันวิ่งหนีเข้าบ้าน พล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 นายดาบ สน.บางขุนเทียน ไล่กวดจับตัวได้ทันควัน สอบสวนผู้ต้องหาอ้างว่าเครียดติดหนี้นอกระบบ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ธันวาคม 2565 ขณะที่ ด.ต.ชุ่ม บุญสายัง ผบ.หมู่งานจราจร สน.บางขุนเทียน เตรียมตัวจะออกไปตั้งด่านตรวจวินัยจราจรอยู่หน้าป้อมจราจร บริเวณ 3 แยกบางบอน ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ ได้มี น.ส.พิไลวรรณ แฉล้มชาติ อายุ 25 ปี พนักงานขายทอง ห้างทองไทยศิริ เลขที่ 492/11 ซอยเอกชัย 64/7 ถนนเอกชัย แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในตลาดนายเหลียง ห่างจากป้อมจราจรประมาณ 30 เมตร วิ่งกระหืดกระหอบมาแจ้งให้ช่วยติดตามคนร้ายก่อเหตุวิ่งราวทองจากร้าน ได้เลสข้อมือทองคำ 5 เส้น น้ำหนักรวม 5 บาท วิ่งหลบหนีเข้าไปในตลาดนายเหลียง
โดยคนร้ายลักษณะคล้ายคนเมียนมา ใส่เสื้อยืดแขนยาวสีขาว กางเกงยีนส์สีดำ สวมหน้ากากอนามัยสีดำ เดินเข้ามาภายในร้าน แล้วขอดูเลสทองคำน้ำหนัก 1 บาท แล้วลองใส่ บอกกับตนว่า ไม่ชอบ ขอดูเส้นอื่น ตนหยิบออกมาจากตู้ให้เลือกอีก 4 เส้น ช่วงจังหวะตนเผลอ คนร้ายได้คว้าเลสทองคำทั้ง 4 เส้น และที่ใส่ในข้อมือ เปิดประตูวิ่งหลบหนีเข้าไปในตลาดนายเหลียง
หลังทราบเรื่อง ด.ต.ชุ่ม จึงขี่รถ จยย.ออกตามหาคนร้าย จนกระทั่งพบคนร้ายรูปพรรณสัณฐานตรงกับที่ได้รับแจ้งกำลังจะวิ่งหลบหนีออกทางประตู 2 ทางด้านถนนบางบอน 1 เมื่อคนร้ายเห็น ด.ต.ชุ่ม จึงวิ่งหลบหนีเข้าไปในตลาดอีกครั้ง ด.ต.ชุ่ม จึงจอดรถ จยย.แล้ววิ่งไล่ตามเข้าไปในตลาด
จังหวะนั้นมีพลเมืองดีชาวเมียนมาวิ่งมาบอกกับด.ต.ชุ่ม ว่ามีคนถอดเสื้อยืดแขนยาวสีขาว และกางเกงยีนส์สีดำทิ้งไว้ในซอกอาคาร แล้วใส่เสื้อยืดสีดำวิ่งหลบหนีไปทางท้ายตลาด ซึ่งสุดทางเป็นบ้านเลขที่ 71 ของพล.ต.ต.วรายุทธ สุขวัฒน์ รอง ผบช.ภ.7 เป็นเจ้าของตลาด ด.ต.ชุ่ม พร้อมพลเมืองดีวิ่งตามไป เห็นคนร้ายวิ่งเข้าไปภายในบ้านของ พล.ต.ต.วรายุทธ ซึ่งเปิดประตูค้างไว้ 1 บาน แล้วคนร้ายก็ปีนขึ้นไปหลบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้สูงราว 3 เมตร เมื่อเห็นจวนตัวไปต่อไม่ได้ คนร้ายจึงยอมลงมาจากต้นไม้มอบตัวแต่โดยดี
โดยทราบชื่อ คือ นายแต็ท อู อายุ 30 ปี ชาวเมียนมา ซึ่งอยู่ในชุดเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงขาสั้นลายการ์ตูน ตรวจค้นในตัวไม่พบเลสข้อมือทองคำแต่อย่างใด สอบถามทราบว่าโยนทิ้งไว้ในโอ่งน้ำข้างบ้าน จึงไปตรวจสอบพบเลสข้อมือทองคำเพียง 3 เส้นเท่านั้น จึงนำตัวพร้อมของกลางไปสอบสวนที่ สน.บางขุนเทียน
จากการสอบสวนนายแต็ท อู ให้การอ้างว่า ทำงานอยู่โรงงานเย็บผ้าย่านบางแค ได้เงินเดือนๆ ละแค่ 5 พันบาท ก่อนหน้านี้ไม่นานไปกู้เงินนอกระบบมา 7 หมื่นบาท เพื่อส่งกลับไปให้พ่อกับแม่ที่เมียนมา โดยที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเดือนละ 3 พันบาท เหลือเงินใช้แค่เดือนละ 2 พันบาท ไม่พอใช้ แถมถูกเจ้าหนี้โทรตามทวงทุกวัน เครียดหมดหนทางจึงลงมือก่อเหตุ โดยที่ไม่เคยมาดูลาดเลามาก่อน ส่วนเลสทองอีก 2 บาท คาดว่าจะหล่นหายช่วงหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ นำตัวส่ง พ.ต.ท.ชุมพล ภู่ระหงส์ สว.(สอบสวน) สน.บางขุนเทียน ดำเนินคดีวิ่งราวทรัพย์ต่อไป.