นครศรีธรรมราช-ศาลจังหวัดทุ่งสง อนุมัติหมายจับ “จืด แสนกัลป์” น้องชายกำนัน และนายก อบต.แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ หลังก่อเหตุฉกรรจ์ไล่ยิงคู่กรณี นอนเสียชีวิตกลางถนนห่างจากบ้าน 10 เมตร แม่คนตายเห็นเหตุการณ์ตั้งแต่คนร้ายบุกเข้ามาพูดคุย ใช้ปืนไล่ยิง พยายามตะโกนห้าม อย่าทำลูกชาย คนร้ายก็ไม่ฟัง รัวไม่ยั้งจนเหยื่อสิ้นใจ ตามไปยิงซ้ำก่อนขับรถหลบหนี ตำรวจระดมกำลังตามล่าตัวมาดำเนินคดี

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ธันวาคม 2565 พ.ต.ต.สัมภาษย์ ผลถาวร สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุยิงกันตายที่หน้าบ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 8 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ หลังรับแจ้งรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้วไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ บุญล้น ผกก. สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช และตำรวจที่เกี่ยวข้อง พญ.ธํญญานุช รัตนวิเชียร แพทย์เวร รพ.ทุ่งใหญ่ นายวรรณวุฒิ สมเชื้อ ปลัดป้องกันอำเภอ และ จนท.กู้ภัยใต้เต็กตึ๊งทุ่งใหญ่

ที่เกิดเหตุ พบศพ นายสมพร ชูวงค์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/1 หมู่ 8 ต.กรุงหยัน อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม. เข้าที่เอวขวา 2 นัด กระสุนทะลุต้นคอหลัง 2 รู ชายโครงขวา 1 นัด กลางอก 1 นัด และต้นขาซ้าย 1 นัด รวม 5 นัด นอนหงายหน้าเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่กลางถนนสายหมู่บ้าน ห่างจากบ้านของผู้ตาย 10 เมตร ในชุดเสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ สวมทับด้วยเสื้อแขนยาวลายพรางแบบทหาร นุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ทับด้วยกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ ที่เอวขวามีมีดพกความยาว 8 นิ้วเหน็บอยู่ ที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่กระจายจำนวน 6 ปลอก และหัวกระสุนปืนทองแดง 2 หัว ตำรวจจึงเก็บเป็นหลักฐาน

จากการสอบสวนทราบว่า ขณะเกิดเหตุในพื้นที่มีฝนตกลงมาตั้งแต่ตอนเช้า มีคนร้ายขับรถยนต์กระบะแบบยกสูง ยี่ห้อนิสสัน สีขาว หมวดอักษร 4889 ขับเข้ามาจอดที่บริเวณหน้าบ้านผู้ตาย จากนั้นได้ตะโกนเรียกตัวผู้ตายที่อยู่ในบ้านกับ นางบุญศรี ฉิมเรือง อายุ 50 ปี ผู้เป็นแม่ให้ออกมาพูดคุย หลัง นายสมพร ผู้ตายเดินออกมายังไม่ทันพ้นชายคา มีการด่าทอกันเสียงดังทั้งสองฝ่าย คนร้ายไม่พอใจชักปืนที่พกติดตัวออกมารัวยิงนายสมพรตั้งแต่หน้าบ้าน นายสมพรพยายามวิ่งหนีตายเอาตัวรอดออกไปบนถนนหน้าบ้าน แต่คนร้ายไม่ลดละวิ่งตามไปรัวยิงไล่หลังไม่ยั้ง จนนายสมพรล้มลง คนร้ายยังเข้าไปจ่อยิงซ้ำจนนายสมพรสิ้นใจตายไปต่อหน้า

ขณะเกิดเหตุ นางบุญศรี ฉิมเรือง แม่ของนายสมพรเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่คนร้ายขับรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้าน มีการโต้เถียงกันเสียงดังลั่นบ้าน นางบุญศรีพยายามเข้าไปห้าม แต่คนร้ายไม่ฟัง และชักปืนออกมาจ่อยิงนายสมพรจนตายไปต่อหน้าผู้เป็นแม่ ทำให้นางบุญศรีถึงกับช็อกหมดสติไปต่อหน้าลูกหลานที่เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ก่อนนำตัวไปปฐมพยาบาลให้นอนที่บ้านลูกอีกคนที่อยู่ไม่ไกลที่เกิดเหตุ หลังก่อเหตุคนร้ายได้ขับรถออกจากหน้าบ้านหลบหนีไปอย่างใจเย็น

ด้าน นางปนิดา ไชยรักษ์ อายุ 40 ปี น้าสาวของผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า ขณะนั่งอยู่หน้าบ้านมีรถยนต์กระบะแบบยกสูง สีขาว ท้ายกระบะมีเคียวเกี่ยวปาล์มพาดอยู่ที่ท้ายกระบะ 2 อัน ขับเข้ามาจอดหน้าบ้าน ตอนแรกก็ไม่สนใจนึกว่าคนขับกระบะมาตามให้นายสมพรผู้ตายไปช่วยทำงานเกี่ยวผลปาล์ม โดยคนร้ายพูดเสียงดังตะโกนบอกให้ผู้ตายออกมาหน้าบ้าน พูดว่า “มึงออกมานี่ มึงออกมานี่” กระทั่งได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งเข้าไปแอบในบ้าน ยังเห็นคนร้ายใช้อาวุธปืนไล่ยิงนายสมพรจนถึงแก่ความตายอยู่กลางถนน

ด้าน พ.ต.อ.ต่อศักดิ์ บุญล้น ผกก.สภ.ทุ่งใหญ่ เผยถึงสาเหตุการเสียชีวิตนายสมพรครั้งนี้ว่า ผู้ตายอยู่กับแม่ที่บ้านเกิดเหตุไม่มีครอบครัว ไม่ได้ทำงานอะไรเป็นหลักแหล่ง รับจ้างทำงานทั่วไปเป็นครั้งคราว เนื่องจากผู้ตายมั่วสุมพัวพันเรื่องยาเสพติดมาตลอด ทางบ้านเคยนำตัวไปบำบัดรักษาหลายครั้ง ส่วนวันเกิดเหตุที่มีคนร้ายบุกมายิงถึงบ้าน สันนิษฐานว่าน่าแอบไปขโมยตัดผลปาล์มของผู้ก่อเหตุ จนผู้ก่อเหตุตามมาเพื่อจะสอบถาม แต่ไม่ทันได้พูดคุยอะไร คนร้ายเกิดอารมณ์โมโหจึงชักปืนที่พกติดตัวออกจ่อยิงผู้ตาย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วทราบชื่อเล่นว่า “จืด” เป็นน้องชายของกำนันในพื้นที่ ยังเป็นน้องชายนายก อบต.แห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ทุ่งใหญ่ ตำรวจได้เรียกสอบพยานที่เห็นเหตุการณ์มาสอบปากคำไปแล้วกว่า 4 ปาก คาดว่าจะรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุรายนี้ได้ในช่วงค่ำวันนี้

ส่วนศพนายสมพร แพทย์ รพ.ทุ่งใหญ่ นำไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง จากนั้นก็จะส่งศพไปผ่าชันสูตรเอาหัวกระสุนออกที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช หลังจากนั้นทางญาติก็จะนำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดใกล้บ้านต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุด ศาลจังหวัดทุ่งสง อนุมัติหมายจับ นายบรรเจิด หรือ เจิด หรือ จืด แสนกัลป์ อายุ 47 ปี ผู้ก่อเหตุ อยู่บ้านเลขที่ 294 หมู่ 2 ต.ปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ