
ตำรวจจับได้แล้วหนุ่มใหญ่วัย 55 ใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอเมียวัย 34 แล้วลากร่างไปซุกไว้ใต้บันได อ้างทำไปเพราะหึงหวงฝ่ายหญิงมีชู้และมีผู้ชายมาติดพันหลายคน ผกก.สน.ท่าเรือ ฝาก อย่ามองความรุนแรงในครอบครัว เป็นเพียงเรื่องภายใน หากช่วยได้ก็ขอให้ช่วย
จากกรณีผัวหึงโหดเมียขี้เหล้า ระแวงปันใจให้เพื่อนร่วมก๊ง ใช้มีดคัตเตอร์ปาดคอเมียเลือดทะลักคาบ้านเช่าในชุมชนวัดคลองเตยใน ทิ้งร่างไว้ใต้บันได ตกดึกลงมาเช็ดเนื้อเช็ดตัวเมียและเรียกเพื่อนมาช่วยพยุงร่างไปข้างบนถึงรู้ว่าเสียชีวิต เอาผ้าห่มคลุมร่างก่อนเผ่นหนี
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ธันวาคม 2565 ที่สน.ท่าเรือ พ.ต.ต.สันติชัย จันทร์เสถียร สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ คุมตัวนายเฉลิม รักษาเพ็ชร อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาฆ่าปาดคอ น.ส.เมทนี เวทไทสงค์ อายุ 34 ปี ออกจากห้องสืบสวนเพื่อนำตัวเข้าห้องกักขังของโรงพัก โดยระหว่างทางนายเฉลิม เผยว่า ตนยอมรับว่าตอนนั้นดื่มสุราด้วยกันจริง และด่าแฟนเพราะโมโหเรื่องหึงหวง เพราะตนเห็นแฟนไปมีชู้และมีหลายคนหลายครั้ง สาเหตุการตายอาจจะล้มมากกว่า เนื่องจากขณะจะขึ้นบันไดตนดึงขาไว้จนล้มปากกระแทกบันได ตอนที่นำร่างขึ้นชั้นสองไม่คิดว่าตาย ตนยังนอนด้วยกันกับผู้ตายทั้งคืนไม่รู้ว่าตายตอนไหน ก็ยังเห็นว่าตัวยังอ่อนอยู่ แต่พอตอนเช้าก็ทราบว่าเสียชีวิตตนเสียใจมาก ยอมรับทุกข้อกล่าวหา และอยากตาย
พ.ต.อ.ดร.ดนุภัทร ขวัญพสุมนต์ ผกก.สน.ท่าเรือ กล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนพบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นสามีผู้ตาย จึงเร่งไล่ล่าจนสามารถจับกุมได้ที่ซอย 8 ชุมชนหัวโค้ง คลองเตย แขวงและเขตคลองเตย เมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนวานนี้ โดยจากการสืบสวนพบว่า ผู้ตายมีผู้ชายมาติดพันพอสมควร เลยทำให้ฝ่ายชายหึงหวง เคยตักเตือนหลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ในวันเกิดเหตุทั้งคู่นั่งดื่มสุรากัน พอเมาได้ที่ก็มีปากเสียงกันในเรื่องหึงหวงกับผู้ตาย ก่อนก่อเหตุสลดดังกล่าวขึ้น เบื้องต้นผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และไม่พาไปทำแผนเพื่อความปลอดภัยและป้องกันเหตุชุลมุน แต่จะนำตัวไปฝากขังภายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนยังทำสำนวนไม่แล้วเสร็จ
พ.ต.อ.ดร.ดนุภัทร กล่าวต่อว่า ส่วนเพื่อนบ้านคือคุณลุงในบ้านเช่าหลังเดียวกันที่เห็นเหตุการณ์และช่วยแบกร่างผู้ตายขึ้นชั้นสอง เบื้องต้นจากการสอบปากคำ ไม่พบเจตนาจะช่วยซ่อนเร้นอำพรางศพ และตอนนั้นเห็นแค่ว่าผู้ตายมีบาดแผลที่คอแต่ไม่ลึกเท่าไร เพียงแค่ผู้ก่อเหตุไหว้วานขอให้ช่วยพาขึ้นห้องและผู้ก่อเหตุพยายามเอามือปิดบาดแผลที่คอไว้ ลุงเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องจึงไม่ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด
ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ตรวจสอบร่องรอยบาดแผลพบว่าเป็นของมีคมปลายแหลมคาดว่าเป็นคัตเตอร์ แต่ตอนนี้ยังไม่พบอาวุธชิ้นดังกล่าว เนื่องจากขณะนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่ามีอาการมึนเมาไม่ทราบว่าโยนทิ้งที่ไหน ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตามหาของกลางมารวบรวมต่อไป สำหรับประวัติของผู้ก่อเหตุเคยเสพยาจริง แต่นานตั้งแต่สมัยวัยรุ่นแล้ว ที่ตรวจพบขณะที่จับกุมมีเพียงแค่ดื่มเหล้าอย่างเดียวเท่านั้น ไม่ได้เสพยาสารเสพติดอื่นใด
ผกก.สน.ท่าเรือ ยังฝากทิ้งท้ายว่า ความรุนแรงในครอบครัวค่อนข้างจะมีเยอะในชุมชน อย่ามองว่าเป็นเพียงเรื่องภายใน หากช่วยเหลือได้ก็ขอให้ช่วยเหลือ เพื่อยับยั้งระงับเหตุร้ายแรงหรืออาชญากรรมที่อาจจะเกิดขึ้น ไม่ใช่มองว่าเป็นเรื่องภายในบ้านอย่างเดียว
ต่อมาเวลา 12.00 น. นางแมว (นามสมมติ) อายุ 55 ปี พี่สาวผู้ตายเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับเอกสารไปติดต่อขอรับศพ เปิดเผยว่า ตอนนี้รู้สึกโล่งใจที่จับผู้ก่อเหตุได้ ตนเคยเตือนน้องสาวหลายครั้งแล้วว่าอย่าคบกับผู้ชายคนนี้ แต่ทำอะไรมากไม่ได้ เพราะผู้ตายมีผู้ชายมาติดพันเยอะ รวมไปถึงน้องสาวเป็นคนติดสุรา ทำให้ชีวิตน้องสาวค่อนข้างวุ่นวาย ห้ามอะไรก็ไม่ฟัง มีผู้ชายกี่คนก็ทะเลาะตีกันทุกคนแล้วไม่เข็ดไม่หลาบจำ ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะทะเลาะกัน ก็มักจะเป็นเรื่องเงินๆ ทองๆ และผู้ชายที่มาติดพัน รวมถึงผู้ก่อเหตุมักจะบังคับให้น้องสาวไปเอาเงินและข้าวจากหลวงตาผู้เป็นพ่อประจำ ถ้าไปเอาช้าก็ตี ยิ่งผู้ตายไปมีชายอื่นก็ตีอีก ทะเลาะกันทุกวันจนเพื่อนบ้านเอือมระอา จนเจ้าของบ้านเช่ามักจะทนไม่ไหว อยากให้ย้ายออกไปเพราะวุ่นวาย
“ยอมรับว่าน้องสาวเป็นโรคขาดผู้ชายไม่ได้ มักจะมีผู้ชายมาวนเวียน 5-10 คน บางทีก็มีผู้ชายมาตีแย่งกันบนบ้าน 3-4 คน อยู่กับใครก็เอาได้หมด รวมถึงผู้ก่อเหตุ น้องสาวตนเป็นคนเสเพล ติดเหล้าเข้าเส้น รวมถึงเคยเสพยาด้วย และผู้ตายไม่ได้มีแค่ผู้ก่อเหตุคนเดียว แต่มีชายหลายคนในชุมชนมาพัวพัน ต่อให้แก่อายุมากก็เอาหมด และไม่ว่าอยู่กับชายคนไหนก็โดนตีทะเลาะเบาะแว้งกันหมด อีกทั้งยังมีนิสัยชอบหลอกเอาเงินจากหลวงตาไปใช้ส่วนตัวและให้ผู้ชายที่มาพัวพัน” นางแมวกล่าว
นางแมว กล่าวต่ออีกว่า สำหรับความในใจของพี่สาว ยอมรับว่ายังโกรธผู้ก่อเหตุ แต่ทำยังไงได้ เรื่องมันเกิดขึ้นไปแล้ว ส่วนผู้ตายคงหมดเวรหมดกรรมแล้ว รู้ว่ายังไงน้องสาวก็คงต้องมีชะตากรรมแบบนี้ เพราะเมื่อปีก่อนผู้ตายเคยมีลูกเล็กติดมาแต่ก็ถูกผู้ชายที่มาพัวพัน (คนละคนกับผู้ก่อเหตุ) อุดปากฆ่าตาย ซึ่งตนเตือนน้องสาวแล้วว่าอย่าเอาลูกไปอยู่ด้วยระวังผู้ชายฆ่าลูกตาย นี่คงเป็นเวรกรรมก็โดนผู้ชายที่คบหาฆ่าตาย ก่อนหน้านี้เมื่อสองวันก่อนได้พาน้องสาวไปทำบุญสะเดาะเคราะห์ และวันที่เจอศพได้นัดกันจะพาน้องสาวไปใส่บาตร แต่ตอนเช้าก็พบพิรุธว่าน้องสาวไม่ออกมาใส่บาตร จนหลวงตาไปตามที่บ้านจนพบว่าเสียชีวิตแล้ว ก็ขอให้น้องสาวหลับให้สบาย ไปสู่ภพภูมิที่ดี ชาตินี้คงแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้ว.