เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 6 ธันวาคม 2565 นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานประชุมคณะกรรมการผู้ดูแลรักษาพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา และคณะอนุกรรมการปฏิบัติงานประจำวันดูแลรักษาพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ครั้งที่ 2/2565 เพื่อพิจารณาบริหารจัดการและการดูแลรักษาโครงการพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบเสนอแนะ และพิจารณาจัดหางบประมาณในการซ่อมแซมสิ่งปลูกสร้างในโครงการพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ณ ห้องประชุมสำนักงานมูลนิธิพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ บริเวณโครงการพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
นายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เปิดเผยว่า เขาชีจรรย์เป็นเขาลูกหนึ่งในกลุ่มเขาที่อยู่ใกล้ ๆ กัน รวม 3 ลูก เมื่อมองจากถนนเข้าสู่กลุ่มเขา เขาชีจรรย์จะมีลักษณะคล้ายกรวยคว่ำ ทรงยอดแหลม มีความสูงจากพื้นดิน 180 เมตร หรือ สูงจากระดับน้ำทะเล 248 เมตร ไหล่เขาทางด้านเหนือหรือด้านที่มองจากถนน เคยเป็นสถานที่ที่มีการระเบิดหินเพื่อใช้เป็นวัสดุก่อสร้างมาก่อน จึงเปิดให้เห็นเนื้อหิน เป็นหน้าผาค่อนข้างเรียบจนถึงยอดเขา บนหน้าผามีรูปแกะสลักหินเป็นพระพุทธรูปลายเส้น รูปประทับนั่ง ปางมารวิชัย เลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตร ศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา ขนาดความสูง 109 เมตร หน้าตักกว้าง 70 เมตร มีฐานบัวสูง 21 เมตร รวมความสูงทั้งหมด 130 เมตร โดยลายเส้นแกะสลักลงในเนื้อหินเป็นร่องลึก ขนาดความกว้าง 30-40 เซนติเมตร ลึก 10 เซนติเมตร ฝังด้วยกระเบื้องโมเสกสีทองเต็มร่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล อดุลยเดช ทรงพระราชทานนามว่า พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ซึ่งปรากฏให้เห็นเด่นชัด บนหน้าผาจากระยะไกล จัดเป็นพระพุทธรูปแกะสลักในลักษณะพระพุทธฉายที่ใหญ่ที่สุดในโลก
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหา สังฆปริณายก เมื่อครั้งยังดำรงตำแหน่งเป็น สมเด็จพระญาณสังวร เจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ซึ่งทรงเสียดายเขาชีจรรย์ที่มีภูมิทัศน์ยิ่งใหญ่สง่างามตามธรรมชาติ แต่กำลังถูกระเบิดทำลายทุกวัน จึงทรงดำริที่จะอนุรักษ์เขาชีจรรย์ให้คงชื่ออยู่คู่กับเขาชีโอนซึ่งมีส่วนหนึ่งอยู่ในเขตสังฆาวาสของวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ด้วยการสร้างพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาเขาชีจรรย์ให้เป็นปูชนียสถานสำคัญทางพระพุทธศาสนา พระพุทธฉายมีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเลียนแบบพระพุทธนวราชบพิตรศิลปะสุโขทัยผสมล้านนา มีความสูง 109 เมตร
พระนาม พระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา มีความหมายว่า พระพุทธเจ้า ทรงเป็นศาสดาที่รุ่งเรือง สว่าง ประเสริฐดุจดังมหาวชิระ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นผู้อุปถัมภ์ และมีเจตนารมณ์สร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 เพื่อให้เป็นพระพุทธรูปแกะสลักหิน ประจำรัชกาลที่ 9 ในวาระทรงครองราชย์ 50 ปี
ทั้งนี้ การสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์สำเร็จลงได้ เนื่องมาจากความสามัคคีของคนในชาติ นอกจากนั้นแล้ว พระพุทธรูปแกะสลักองค์นี้ เป็นเสมือนแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงเป็นพระบรมศาสดาแห่งศาสนาพุทธ ซึ่งจะเป็นถาวรวัตถุที่ยืนยงคงอยู่ตลอดไป และที่สำคัญเป็นการน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่9 พระผู้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรทุกหมู่เหล่า พระพุทธรูปองค์นี้จึงเป็นการรวมเอาชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เข้าไว้ด้วยกัน ปัจจุบันเขาชีจรรย์เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และทางศาสนาที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดชลบุรีที่คนนิยมไปท่องเที่ยวและกราบไหว้